- เตรียมออกหุ้นกู้และกู้เงินระยะยาวมูลค่า ประมาณ 1,500 ล้านบาทเพื่อล็อคต้นทุนทางการเงิน
- เชื่อมั่น ผลประกอบการในปีนี้ รายได้จะเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากกว่า 10% หลังจากปรับเป้าสินเชื่อเติบโตจาก 10% มาเป็น 20%
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร เชื่อมั่นตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้จะเติบโตทะลุระดับ 2 ล้านคันในปีนี้ คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 10%
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ที่เติบโตอย่างมาก ทำให้ TK ต้องเตรียมความพร้อมกับการรับมือกับตลาดที่เติบโตดังกล่าว โดยขณะนี้ TK ได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้มูลค่า 2,000 ล้านบาทเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว ที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะเป็นการระดมเงินทุนระยะยาวไม่เกิน 10 ปี
“เรา ต้องยอมรับว่าการปล่อยสินเชื่อนั้น ปัจจัยสำคัญที่สุดคือต้นทุนทางการเงิน เราจึงต้องอาศัยความได้เปรียบของเราที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สามารถใช้หลายเครื่องมือในการระดมทุน ซึ่งการทยอยขายหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาทนี้ จะทำให้เรามีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นประกอบกับมีวงเงินที่ยังไม่ได้ใช้จากสถาบัน การเงินมากกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ ไม่เพียงแต่จะไปขยายพอร์ทสินเชื่อให้โตขึ้นตามตลาดแล้ว เรายังมีความคล่องตัวที่จะบริหารเงินก้อนนี้ในการซื้อหรือร่วมทุนในกิจการ อื่น ๆ ที่เราเห็นว่าจะสร้างผลกำไรให้กับองค์กรได้ในระยะยาว” นางสาวปฐมากล่าว
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในกลุ่มเอสพีอินเตอร์เนชันแนล ก่อตั้งโดย ดร.ชุมพล พรประภา เมื่อปี 2515 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทเพื่อให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร และนับจากปี พ.ศ. 2521 หรืออีก 6 ปีต่อมา บริษัทฯ สามารถครองอันดับหนึ่งของผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพ มหานครติดต่อกันถึง 28 ปี
ทางด้านนายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดรถจักรยานยนต์ที่คาดว่าจะเติบโตทะลุระดับ 2 ล้านคันในปีนี้เป็นผลมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นโดยตรงกับการเติบโตของรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ปัญหาราคาน้ำมันที่แพงในระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการกระตุ้นยอดขายรถจักรยานยนต์เพื่อเป็นทางเลือกใน การเดินทางที่สะดวกและถูกที่สุดของคนไทย โดยในกรุงเทพที่มีการจราจรติดขัด และในต่างจังหวัดที่ไม่มีความพร้อมขนส่งมวลชน
นายประพลกล่าวว่าใน ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มูลค่าสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของ TK เติบโต 5% ทำให้บริษัทฯ ได้ปรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรถจักรยานยนต์จากที่ตั้งไว้เดิม 10% ตลอดทั้งปี มาเป็น 20% ในขณะที่รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นประมาณ 9% มาเป็น 776 ล้านบาท “เราเชื่อมั่นมากว่าเราน่าจะโตได้สูงต่อไปในปีนี้”
TK ในปี 2553 มีรายได้ทั้งสิ้น 2,879.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% จาก 2,681.9 ล้านบาทในปี 2552 ในขณะที่ยอดสินเชื่อเมื่อปีที่แล้วเติบโตประมาณ 15.8% จาก 6,010.6 ล้านบาทในปี 2552 มาเป็น 6,962 ล้านบาทในปี 2553
นายประพล กล่าวว่าเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ TK มีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละปี บริษัทฯ จะเปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 4 สาขา โดยในปีนี้ได้เปิดสาขาใหม่แล้ว 1 สาขา และภายในปีนี้ คาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ซึ่งปัจจุบัน TK มี 78 สาขาใน 45 จังหวัดทั่วประเทศ
“นอกจากสาขาที่เพิ่มขึ้นแล้ว เรายังมีแผนรับพนักงานใหม่จำนวนทั้งสิ้น 400 อัตรา และยังมีแผนจะเปิดรับอีก 200 อัตราในปีหน้า เพื่อรองรับแผนการเติบโตในอนาคตด้วย” นายประพลกล่าว
ที่มา : ThaiPR.net
จากลิ้ง http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=9782.msg11279;topicseen#msg11279
Credit : DekvanzClub
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น