Subscribe:

DekvanzClub

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ไทยรุ่งปันน้ำใจร่วมบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

กลุ่มบริษัท ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการออกแบบและผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ของไทย และประกอบธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ระดับแถวหน้าของประเทศ โดยคุณสมพงษ์ เผอิญโชค ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ และคุณแก้วเก้า เผอิญโชค ตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นตัวแทนมอบสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้แก่ เรือยนต์ จำนวน 10 ลำ เรือเล็กจำนวน 40 ลำ สุขาลอยน้ำ 55 ชุด เก้าอี้สุขา 3,000 ชุด ให้กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, นครนายก, นครสวรรค์, อ่างทอง และได้เดินทางไปมอบสิ่งของบางส่วนให้กับ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นอกจากนี้ยังได้ยังได้นำรถยนต์ รุ่นเอ็มยูวีโฟร์ (MUV4) ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในช่วงภาวะน้ำท่วม
สอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บริษัท ออล อินสไปเรชั่นส์ ออร์แกไนซ์ แอนด์ พีอาร์ จำกัด
โทร. 02-653-0628 Fax 02-653-0640

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15555.msg17166;topicseen#msg17166

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย ชาลี ชิปปี้ฝาแฝด



ขาย ชาลี ชิปปี้ฝาแฝด ชาลีเครื่องดีสีสวยล้อ4.7 ชิปปี้เดิมๆของครบเตรื่องดีทีเดียวติด ขายคันละ13500 โทร0815850870โต้ง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15554.msg17165;topicseen#msg17165

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย โช๊คหลังJazz50 235mm. โหลดๆ มาใหม่3คู่


โช๊คหลังJazz50 235mm. มาใหม่ 3 คู่ คู่ล่ะ 750 พร้อมส่ง

มือถือ : 0814115415   

อีเมล์ : passerby7@hotmail.com

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15553.msg17164;topicseen#msg17164

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย fz1 Fazer 06 สีเงิน แต่งเพียบ ราคาพิเศษครับ



รายการของแต่งมีดังนี้ครับ

ท่อ Akrapovic slip on เอา cat ที่คอออก
ชิล Puig
กันล้อ ข้างและเครื่อง
กันถัง CW คาร์บอน
กรองแต่ง BMC
Power commander
ผ้าเบรคใหม่หน้าหลัง Ferodo racing
สเตอร์หน้าหลังใหม่ JT โซ่ DID 530 แท้
แบตใหม่เบิก red baron
น้ำมันโช็คเบอร์ 15 medium ของ motulครับ
น้ำมันเครื่อง Motul หัวเทียนใหม่หมด
ของเหลวเปลี่ยนใหม่หมดที่ศูนย์ครับ เพิ่งล้างหัวฉีดมาด้วย

เครื่องแน่น ขี่ดีมากครับ

สีเดิมไม่ได้ทำ ยางปี 2011

รถสเปกแคนนาดาไม่ตัดรอบครับ

ขอบคุณครับ 265,000 บาท

โทรศัพท์ : 0897873861

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15552.msg17163;topicseen#msg17163

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย Sonic น้ำเงิน-ขาว สภาพเดิม รถบ้าน



ขาย Sonic น้ำเงิน ขาว รถบ้านสภาพเดิม สนใจติดต่อ. 088-3012288 ว่างช่วง 17.00-21.00 น วันธรรมดา
วันเสาร์-อาทิตย์ว่างตลอด 24 ช.ม. 28,000 บาท

ดูรูปภาพรถเพิ่มเติม ที่ลิ้งด้านล่าง
http://image.ohozaa.com/view/4ap44
http://image.ohozaa.com/view/4ap60
http://image.ohozaa.com/view/4ap7r
http://image.ohozaa.com/view/4ap9k
http://image.ohozaa.com/view/4apbt
http://image.ohozaa.com/view/4ape0

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15551.msg17162;topicseen#msg17162

Credit : คลิปพริตตี้

โตโยต้า มอบเงิน 4 ล้านบาท พร้อมส่งทีมเฉพาะกิจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ร่วมมอบเงิน 4 ล้านบาท ผ่านครอบครัวข่าว 3 และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ พร้อมส่งทีมเฉพาะกิจ ออกให้ความช่วยเหลือผู้อพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของจำเป็น มอบส่วนลดค่าอะไหล่ 30% และได้ส่งเจ้าหน้าที่เทคนิคเข้าไปยังพื้นที่ที่ประสบปัญหา เพื่อให้คำปรึกษา และช่วยเหลือผู้ประสบภัย

มร.เคียว อิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า "โตโยต้ามีความห่วงใยต่อผู้ประสบภัยทุกท่าน เราให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ที่จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โตโยต้าขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทย ร่วมกันผ่านวิกฤตจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น และโตโยต้า ได้ร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านครอบครัวข่าว 3 และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,000,000 บาท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย"

อนึ่ง โตโยต้ายังได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยในภูมิภาคต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเกิดอุทกภัย ได้แก่ บริจาคเงินช่วยเหลือ มูลค่า 2 ล้านบาท ผ่านสภากาชาดไทย บริจาคเงินช่วยเหลือ มูลค่า 2 ล้านบาท ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า บริจาคถุงยังชีพ ให้กับผู้ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด มูลค่า 2.6 ล้านบาท และบริจาคเงินให้กับวุฒิสภา จำนวน 5 แสนบาท

นอกเหนือจากนี้โตโยต้า ได้จัดตั้งทีมช่วยเหลือเฉพาะกิจ โดยให้ความช่วยเหลือผู้อพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของจำเป็น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้า และศูนย์บริการโตโยต้าทุกแห่ง พร้อมให้ความช่วยเหลือรถยนต์โตโยต้าที่ได้รับผลกระทบ ด้วยส่วนลดค่าอะไหล่ 30% และได้ส่งเจ้าหน้าที่เทคนิคเข้าไปยังพื้นที่ที่ประสบปัญหา เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำผู้ประสบภัย สามารถสอบถามข้อมูลความช่วยเหลือผ่านทางโทรศัพท์หมายเลข 02-386-2000

นาย วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวเพิ่มเติมว่า "โตโยต้ายึดมั่นต่อพันธกิจในการเจริญเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทย ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี เราจึงพร้อมใจให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และนี่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่โตโยต้าขอเป็นส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม ขององค์กร"

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15549.msg17160;topicseen#msg17160

Credit : คลิปพริตตี้

โตโยต้า ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายธนกร ศรีจอมขวัญ ประธานชมรมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า นายมาโนช ลี้โกมลชัย ประธานชมรมความร่วมมือโตโยต้า พร้อมคณะผู้บริหาร เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 2 ล้านบาท ผ่าน "ครอบครัวข่าว 3" โดยมี นายประวิทย์ มาลีนนท์ เป็นผู้รับมอบ และอีก 2 ล้านบาท ผ่าน "มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์" มีนายกองเอกดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ รับมอบ

นาย เคียวอิจิ ทานาดะ เปิดเผยว่า โตโยต้ามีความห่วงใยต่อผู้ประสบภัยทุกท่าน เราให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ที่จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่าง เร่งด่วน โตโยต้าขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยร่วมกันผ่านวิกฤติจากเหตุการณ์อุทกภัยที่ เกิดขึ้น และโตโยต้าได้ร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านครอบครัวข่าว 3 และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,000,000 บาท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

โดยโตโยต้ายัง ได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยในภูมิภาค ต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเกิดอุทกภัย ได้แก่ บริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน 2 ล้านบาท ผ่านสภากาชาดไทย, บริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน 2 ล้านบาท ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า บริจาคถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด มูลค่า 2.6 ล้านบาท, บริจาคเงินและข้าวสารให้กับวุฒิสภาจำนวน 5 แสนบาท

ในการช่วยเหลือผู้ ประสบอุทกภัยในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา รวมจำนวนทั้งสิ้น 11.1 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นเป็นกรณีเร่งด่วน และยังได้จัดตั้งทีมช่วยเหลือเฉพาะกิจ โดยให้ความช่วยเหลือผู้อพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของจำเป็น

อนึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้า ศูนย์บริการโตโยต้าทุกแห่ง พร้อมให้ความช่วยเหลือรถยนต์โตโยต้าที่ได้รับผลกระทบ ด้วยส่วนลดค่าอะไหล่ 30% และได้ส่งเจ้าหน้าที่เทคนิคเข้าไปยังพื้นที่ที่ประสบปัญหา เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำผู้ประสบภัย สามารถสอบถามข้อมูลความช่วยเหลือผ่านทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2386-2000

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯ ได้ติดตามข่าวสารเพื่อประเมินสถานการณ์ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15547.msg17151;topicseen#msg17151

Credit : คลิปพริตตี้

คุยเฟื่องเรื่องยานยนต์: ตลาดรถยนต์ 9 เดือน670,969 คัน

ระยะนี้มองไปทางไหนก็รู้สึกว่าจะเห็นแต่สีหน้าอาการวิตกกังวลของผู้คน เมืองกรุง ที่กำลังถูกกระแสน้ำไหลเข้ามาประชิดและเอ่อล้นเข้าท่วมในหลายๆ พื้นที่ จนสร้างความเดือดร้อนกันไปทั่วทุกหัวระแหง แต่เหนืออื่นใดยิ่งกว่าความวิตกกังวลของพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้ นั่นก็คือ น้ำใจของคนไทยยังมีให้กันเสมอ เมื่อเห็นคนไทยด้วยกันได้รับความเดือดร้อน

เห็น ได้จากยอดเงิน สิ่งของที่จำเป็น รวมถึงกำลังใจอื่นๆ ซึ่งบริจาคผ่านองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทุกวันไม่ได้ขาดผ่านทางสื่อต่างๆ รวมเป็นเม็ดเงินมหาศาล นั่นเป็นอีกเพียงส่วนหนึ่งที่เผยแพร่ข่าวสารให้พี่น้องชาวไทยได้รับรู้รับ ทราบ แต่ยังมีอีกหลายองค์กรหลายกลุ่มที่เขามีใจสละเวลา ทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องไทยกันจริงๆ อย่างเต็มกำลัง โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เพื่อส่งกำลังใจให้กับพี่น้องชาวไทยที่กำลังประสบกับอุทกภัยอยู่ในขณะนี้

ใคร จะว่าอย่างไรผมไม่สามารถตรัสรู้ได้ แต่คลองสามวาบ้านผมที่อาศัยอยู่ในขณะนี้เริ่มประสบกับปัญหาจากภัยน้ำท่วมกัน บ้างแล้ว ณ วันนี้ที่นั่งเขียนต้นฉบับอยู่ (พุธที่ 19 ต.ค.) ซึ่งแม้จะมีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมรับมือกันมาแต่เนิ่นๆ กระนั้นต่างก็ยังไม่สามารถยิ้มได้เต็มปาก เพราะเป็นครั้งแรกที่หลายๆ คนเพิ่งจะประสบพบพาน

รถราจอดบนถนนเลียบคลองสองจากหน้าเขตคลองสามวา ยาวเหยียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถตู้และรถบัสของสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ที่โดนเข้าไปเต็มใบ จอดเรียงรายเป็นทิวแถวสองข้างทาง ผมไม่ได้ห่วงหรอกนะขอรับว่า คนหรือรถจะอยู่อย่างไร เพราะยังสามารถที่จะเอาตัวรอดได้ แต่สงสารว่า บรรดาสิงสาราสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ข้างในเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรต่างหาก...ฮา

เอา ล่ะครับ นั่นก็เป็นแต่เพียงความวิตกความคาดการณ์ที่ผมเองวิตกกังวลไป เพราะแม้จะยังมาไม่ถึงแต่มันก็สั่นประสาทพวกเราได้อย่าง ชะงัดนัก

ผม ประทับใจที่ "คนไทยไม่ทิ้งกัน" ไม่ว่าจะยามไหน  อย่างวันก่อน (จันทร์ที่ 17 ต.ค.) ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานคอนเสิร์ตกับกลุ่มศิลปินเพื่อชีวิต ซึ่งจัดงาน "จากใจสู่ใจช่วยภัยน้ำท่วม" ที่ตลาดสี่มุมเมือง รังสิต และได้มีทักทายกับพี่ๆ น้องๆ ศิลปินนักแสดงมากมาย อาทิ สมชาย ใหญ่, หนุ่ม สกล, สน, ปทีป, พี่กะหล่ำ, ทีมงานตลก รัก เขาดิน รวมทั้งศิลปินอีกหลายชีวิตที่มาช่วยงานกันอย่างไม่คิดค่าตัวและค่าแรง

แต่ที่ประทับใจก็ยังคงเป็นพระเอก "เสือเมฆ" จากละคร "เสือสั่งฟ้า" ทางช่อง 7 สี "เอก รังสิโรจน์" ที่สละเวลามาร่วมงานในวันนั้นด้วย

เพราะ อะไรหรือครับ?  ก็เพราะความที่เป็นกันเองกับแฟนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ชื่นชมและมาให้กำลังใจกันถึงที่โดยไม่ถือตัวและเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่จะมีน้อยมากในหมู่ดารานักแสดงระดับซุป'ตาร์ทุกวันนี้ เพราะไม่มีสื่อแขนงใดติดตามหรือมีกล้องส่องหน้า

คนอื่นผมไม่ทราบ เพราะไม่ได้สัมผัสกับตนเองหรือตัวตนที่แท้จริง ส่วนพี่ๆ น้องๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง แต่มีความจริงใจ มีความเสียสละให้จริงๆ ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะขอรับ...

ย้อนกลับมาดูยอดการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งจั่วหัวไว้อย่างสวยหรู เพราะแม้จะประสบกับอุทกภัยในหลายๆ จังหวัดของประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดการจำหน่ายรถยนต์ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด

เรื่อง นี้ คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า เมื่อเดือนกันยายน 2554 ที่ผ่านมา มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 87,012 คัน เพิ่มขึ้น 27.5% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 40,685 คัน เพิ่มขึ้น 29.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 46,327 คัน เพิ่มขึ้น 25.7% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 40,087 คัน เพิ่มขึ้น 28.2%

ประเด็น สำคัญคือ ปัจจัยหลักยังคงเป็นผลต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเร่งส่งมอบรถ ค้างจองที่มีอยู่เป็นจำนวนมากให้เร็วขึ้น ทั้งรถยนต์รุ่นยอดนิยมและรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งแนะนำเข้าสู่ตลาด โดยตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 670,969 คัน เพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากรายได้เกษตรกร การเติบโตของการบริโภคและการลงทุน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดี

สำหรับ เดือนนี้ตุลาคมยอดการจำหน่ายรถยนต์น่าจะลดลง แม้ว่าจะมีปริมาณการสั่งซื้อในระดับที่สูงและมีการเพิ่มกำลังการผลิตของค่าย รถญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัญหาอุทกภัยใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและภาคกลางที่ได้รับผล กระทบอย่างหนัก มีโรงงานผลิตรถยนต์ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลายแห่งได้รับผล กระทบอย่างมาก ส่งผลให้ค่ายรถยนต์หลายแห่งต้องหยุดการผลิตไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน ทำให้บริษัทรถยนต์ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ตามกำหนด
บรรยายใต้ภาพ
จากซ้าย ผม พี่หนุ่ม สกล และวิจิตร บรรจงกลาง นักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15546.msg17150;topicseen#msg17150

Credit : คลิปพริตตี้

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Auto-Insider:ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่รับจองก่อนเปิดตัว

ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศราคาเรนเจอร์ ใหม่ 3 รุ่นแรก เครื่องยนต์ ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 2.2 ลิตร วีจี เทอร์โบ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อมเปิดรับจองเรนเจอร์ ใหม่ ทั่วประเทศแล้ว โดยรุ่น 2 ล้อยกสูงเริ่มต้น 699,000 บาท แถมจองก่อนเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะได้รับประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี

ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ 3 รุ่นแรก พร้อมเปิดรับจองรถกระบะขนาดคอมแพ็กต์ระดับโลกรุ่นใหม่ก่อนวางจำหน่ายทั่วไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพ สมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน เปิดตัวด้วยสนนราคาสำหรับรุ่นยกสูง 3 เวอร์ชั่นแรกที่ 699,000-869,000 บาท โดยลูกค้าที่สั่งจองฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ในช่วงก่อนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะได้รับประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นยกสูงทั้ง 3 เวอร์ชั่น ได้แก่ รุ่นโอเพ่นแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ XLT รุ่นดับเบิลแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ XLT และไวล์ดแทรค มอบคำจำกัดความใหม่ให้แก่รถกระบะขนาดคอมแพ็กด้วยการผสานความแข็งแกร่งและ สมรรถนะอันเหนือชั้นเข้ากับอุปกรณ์เทคโนโลยีสุดทันสมัยแบบเดียวกับรถยนต์ นั่งส่วนบุคคล ทั้งยังมอบความสะดวกสบายในการขับขี่และให้การประหยัดน้ำมัน

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ทั้ง 3 รุ่น ติดตั้งเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 22 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าและมอบการตอบสนองด้วยแรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ด้วยระบบส่งกำลังชุดใหม่ระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น ทั้งยังมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่สะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่เงียบยิ่ง ขึ้น สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ประกอบด้วย หน้าต่างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบสัมผัสเดียวด้านคนขับ รวมถึงอุปกรณ์เพื่อความสะดวกปลอดภัย อาทิ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พร้อมชุดเครื่องเสียงเชื่อมต่อเครื่องเล่น MP3 กับช่อง Aux-in โดยตรง  นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังพร้อมด้วยอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ด้วยถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าสำหรับทุกรุ่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (เอบีเอส) และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีบีดี) ช่วยกระจายแรงเบรกที่ส่งไปยังแต่ละล้อโดยปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพถนน ความเร็ว และน้ำหนักบรรทุก เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้อย่างทันท่วงทีและสามารถควบคุมทิศทาง ของรถได้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังมาพร้อมระบบกุญแจนิรภัย (อิมโมบิไลเซอร์) ไฟตัดหมอกหน้า และไฟเบรกดวงที่3 ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยตอกย้ำความเป็นรถกระบะที่มอบความปลอดภัยระดับ สูง

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นโอเพ่นแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ XLT พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา และรุ่นดับเบิลแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ XLT พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ ได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วและยางขนาด 265/65 R17 เพื่อสมรรถนะการขับขี่ ทั้งยังมอบอุปกรณ์เพื่อความสะดวกในการขึ้นลง อาทิ บันไดข้าง สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นดับเบิลแค็บ 4x2 ไฮ-ไรดอร์ 22 ลิตร ไวลด์แทรค เกียร์อัตโนมัติ คืออีกทางเลือกที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ ด้วยชุดแต่งแบบสปอร์ต ประกอบด้วย ราวหลังคา สปอร์ตบาร์ บาร์เสริมขอบกระบะ และแผ่นปูกระบะท้าย พร้อมเบาะนั่ง พวงมาลัย และแผงข้างประตูแบบสปอร์ต

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นไวลด์แทรค ยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ขึ้นอีกขั้นด้วยการติดตั้งเฟืองท้ายแบบลิมิ เต็ดสลิปเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านบลูทูธยูเอสบี และ ไอพอดรวมทั้งระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียง สำหรับการสั่งงานวิทยุ ซีดี ไอพอด ยูเอสบี และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นไวลด์แทรค ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย บันไดข้าง และไฟส่องสว่างข้างตัวรถ

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถคันแรกในจำนวนรถยนต์ระดับโลก 8 รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แผนกลยุทธ์ ne For เพื่อจำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียนในช่วง 5 ปีข้างหน้า รถใหม่ 8 รุ่นดังกล่าวจะเพิ่มความหลากหลายให้แก่สินค้าในโชว์รูมฟอร์ดและจะทำให้แบ รนด์ฟอร์ดเข้าถึงลูกค้า

กลุ่มใหม่ๆ ได้เป็นจำนวนมาก ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ในเดือนพฤศจิกายนนี้  ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นโอเพ่นแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ 22 ลิตร XLT พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา ราคา 699,000 บาท และฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นดับเบิลแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ 22 ลิตร XLT พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ ราคา 799,000 บาท รุ่นดับเบิลแค็บ 4X2 ไฮ-ไรเดอร์ ไวลด์แทรค 22 ลิตร พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ ราคา 869,000 บาท สำหรับผู้ที่สั่งจองก่อนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

สำหรับ ราคาจำหน่ายและข้อมูลจำเพาะของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นอื่นๆ จะประกาศอย่างเป็นทางการภายในงานมหกรรมยานยนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอกซโป ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สามารถสั่งจองฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15442.msg17007;topicseen#msg17007

Credit : คลิปพริตตี้

ขายรถวิบาก CPX ZX250 55,000 บาท ราคานี้ต่อรองได้ครับ

ขายรถวิบาก CPX ZX250 55,000 บาท แต่งเครื่องเปลี่ยนคาบู MPRO ยืดชัก,ลูก,วาว แถมชุดล้อวิบากให้ด้วย
ลดได้ครับให้ 50,000 บาท ถ้วน รถมีใบอินวอยด์ครับ อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อผมได้
080-1259701 หนุ่ย



--------------------------------------------------------------------------------
 080-1259701   autobonus@hotmail.com  

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15441.msg17002;topicseen#msg17002

Credit : คลิปพริตตี้

เชฟวี่ โคโลราโด รุ่นใหม่ บุกโครงการ “รถคันแรก”


เชฟโรเลต ส่งโคโลราโด รถกระบะพันธุ์แกร่งรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเชฟโรเลต อาวีโอ 1.4 ลิตร ร่วมงานแสดงยานยนต์ในโครงการรถคันแรก ซึ่งจัดโดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังที่ไบเทค บางนา

มร.อันโต นิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เชฟวี่ โคโลราโด รุ่นใหม่ และเชฟโรเลต อาวีโอ 1.4 ลิตร เป็นรถที่รองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ สมรรถนะการขับขี่ ความประหยัด และความคุ้มค่าในการใช้งาน

“โดยเฉพาะ อย่างยิ่งโคโลราโด ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของประสบการณ์ 100 ปีของเชฟโรเลตในการสร้างสรรค์รถกระบะพันธุ์แกร่ง ผลลัทธ์คือ โคโลราโด รุ่นใหม่ที่เป็นผู้นำในตลาดรถกระบะทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และคุณภาพเหนือมาตรฐาน” มร.ซาร่า กล่าว

ทั้งนี้ เชฟโรเลต จะนำรถกระบะโคโลราโด รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับเชฟโรเลต อาวีโอ 1.4 ลิตร ออกโชว์ตัว ซึ่งภายใต้โครงการรถคันแรกของรัฐบาล ผู้ซื้ออาวีโอ 1.4 ลิตร จะได้รับเงินภาษีคืนเต็มจำนวน 100,000 บาท ขณะที่เชฟโรเลต โคโลราโด อยู่ระหว่าง 18,821 - 100,000 บาท พร้อมเปิดให้ผู้สนใจได้ทดสอบลองขับด้วยในงานนี้ที่บูธบี4 ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 11 — 14 ตุลาคม 2554 นี้

ขณะเดียวกัน เชฟโรเลต ยังมีแคมเปญพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ โคโลราโด ดาวน์ 9 เปอร์เซ็นต์ ผ่อน 8,099 บาท หรือดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อน 6,529 บาท ขณะที่อาวีโอ 1.4 ลิตร ดาวน์ 9 เปอร์เซ็นต์ ผ่อน 7,118 บาท หรือดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อน 5,756 บาท

จากภาพ: คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี (ที่ 6 จากซ้าย) คุณบุญส่ง เตริยาภิรมย์ รมต ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ที่ 7 จากซ้าย) และคุณอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง (ที่ 3 จากซ้าย) ถ่ายภาพร่วมกับมร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ที่ 5 จากซ้าย) และคุณครรชิต ไชยสุโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายรัฐกิจ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้ายสุด) ภายในงาน “รถคันแรก” ซึ่งจัดโดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ณ ไบเทค บางนา
ข้อมูลเพิ่มเติม
พันธมาศ กรีกุล
ผู้จัดฝ่ายประชาสัมพันธ์

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร.+662 791 3400
อีเมล์: pantamas.krikul@gm.com

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15440.msg16996;topicseen#msg16996

Credit : คลิปพริตตี้

ประเทศไทย ประกาศความพร้อม จัดสุดยอดงานสินค้ายานยนต์แห่งอาเซียน “TAPA 2012” รับสมัครผู้ร่วมแสดงสินค้า วันนี้ — 30 พ.ย. 54

ประเทศไทย เดินหน้าจัด “TAPA 2012” สุดยอดงานแสดงสินค้ายานยนต์ระดับภูมิภาค พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการไทย ร่วมประกาศศักยภาพ โชว์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์การออกแบบใหม่ๆ ทั้งยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่ง ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” สมัครภายในวันที่ 30 พ.ย. 54

นาง นันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่างานแสดงสินค้า ยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง 2555 (Thailand Auto Parts & Accessories 2012) หรือ TAPA 2012 จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ร่วมกับ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ซึ่งงานนี้จะมีผู้ซื้อจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาชมงาน นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ร่วมแสดงสินค้าจะใช้เวทีนี้ในการสร้างความเชื่อมั่น ว่าประเทศไทยยังพร้อมกับการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของภูมิภาคพร้อมเปิด เวทีเจรจาการค้า ประชาสัมพันธ์บริษัท รวมทั้งเปิดตัวสินค้า เทคโนโลยี นวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ให้กับผู้ซื้อรายใหม่ๆ ตลอดจนติดตามความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมยานยนต์

“งาน TAPA 2012 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2555 บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ที่ไบเทค บางนา ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” เพื่อนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในแนวคิดเพื่อโลก สีเขียวที่ช่วยลดมลภาวะ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดโลกร้อน โดยจะมีผู้ประกอบการชั้นนำจากประเทศไทยและต่างประเทศมาร่วมแสดงสินค้า และคาดว่าจะมีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก และตัวแทนจัดซื้อในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลอดจนผู้สนใจจากในประเทศไทยและต่างประเทศ มาร่วมชมงานกว่า 16,000 ราย” นางนันทวัลย์ กล่าว

งาน TAPA 2012 เปิดรับสมัครผู้ผลิต ผู้ส่งออก ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซัพพลายเออร์ ซับคอนดักเตอร์ของผู้ผลิต OEM/REM และผู้ประกอบกธุรกิจให้บริการในอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จในงาน TAPA 2012 สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ -30 พ.ย. 54 โทร.02 507 8374 - 78 หรือโทรสายด่วนกรมส่งเสริมการส่งออก 1169

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.thailandautopartsfair.com, www.depthai.go.th, www.thaitradefair.com และ www.thaiautoparts.or.th

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15439.msg16995;topicseen#msg16995

Credit : คลิปพริตตี้

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขยายโชว์รูม 200 แห่ง ภายใน 2 ปี รับเปิดตัวรถอีโคคาร์


มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปลื้มนโยบายขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและโชว์รูมมาตรฐานได้ผลมีทั้งนักลงทุน รายใหม่สนใจเป็นดีลเลอร์ในขณะที่ผู้จำหน่ายเดิมเร่งขยายสาขาเพิ่มหวังเจาะ ลูกค้าในระดับท้องถิ่นมากขึ้นส่งผลให้จนถึงขณะนี้มีโชว์รูมใหม่เกิดขึ้น แล้วกว่า 40 แห่ง ตั้งเป้าภายในปี 2556 มีโชว์รูมครบ 200 แห่งทั่วประเทศแน่นอน

มร. อาสึชิ เซอิโนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งความคืบหน้าภายหลังจากการประกาศนโยบายขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อ เพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานรวมทั้งสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการซื้อ รถยนต์มิตซูบิชิได้ง่ายขึ้นครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัด ด้วยการเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ "มิตซูบิชิ" โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2553 ที่ผ่านมานั้นปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากนักธุรกิจรายใหม่ และผู้จำหน่ายเดิมที่สนใจขยายสาขาเพิ่มเติม ส่งผลให้ปัจจุบันมิตซูบิชิมีผู้จำหน่ายทั้งสิ้น 97 ราย พร้อมโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ 150 แห่ง

“เพื่อรองรับ กับการเติบโตขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยโดยเฉพาะการเติบโต ของตลาดรถยนต์นั่งในหัวเมืองใหญ่ๆในต่างจังหวัดที่มีอัตราเติบโตขึ้นอย่าง ต่อเนื่องประกอบกับเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวรถอีโคคาร์ของมิตซูบิชิ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า เราจึงมีการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย พร้อมๆ ไปกับการปรับปรุงคุณภาพและรูปลักษณ์ของศูนย์บริการให้ทันสมัยและได้มาตรฐาน เดียวกัน โดยในด้านของการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายนั้นเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากนักธุรกิจที่สนใจในอุตสาหกรรมรถยนต์และมั่นใจในการดำเนินงานของมิตซูบิชิ ส่งผลให้ปัจจุบันมิตซูบิชิมีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานครอบคลุมทุก ภูมิภาคทั่วประเทศแบ่งเป็นกรุงเทพและปริมณฑล 41 แห่ง และในภูมิภาคต่างๆ อีก 109 โดยแบ่งเป็น ภาคกลาง 35 แห่ง ภาคเหนือ 24 แห่ง ภาคตะวันออกฉียงเหนือ 29 แห่ง และภาคใต้ 21 แห่ง ทั้งนี้บริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถขยายโชว์รูมและศูนย์บริการได้ 160 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และขยายเป็น 200 แห่งภายในปี 2556 อย่างแน่นอน” มร. เซอิโนะ กล่าว

ทั้ง นี้มร.มูราฮาชิยังได้กล่าวเสริมถึงยอดขายของบริษัทฯ ว่า “เมื่อพิจารณายอดขายในช่วงที่ผ่านมาพบว่านโยบายขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายมีผล ต่อยอดขายของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก โดยยอดขายรถยนต์ของมิตซูบิชิในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม — สิงหาคม) อยู่ที่ 47,061 คัน โดยในจำนวนนี้เป็นยอดขายจากการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายของบริษัทฯ ประมาณ 12%”

ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานทั้งในด้านภาพลักษณ์ กระบวนการทำงาน ตลอดจนการให้บริการของทั้งผู้จำหน่ายเดิมและผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิราย ใหม่นั้น บริษัทฯ จัดให้มีหน่วยงานคอยกำกับดูแลโดยเฉพาะซึ่งหน่วยงานดังกล่าวจะเป็นทั้งผู้ให้ คำปรึกษา ติดตาม รวมทั้งตรวจสอบผลการทำงานของผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการประเมินผลพร้อมมอบรางวัลให้กับผู้หน่ายที่มีคะแนนการ ดำเนินงานโดยรวมสูงสุดทั้งด้านงานขาย การบริการ และงานอะไหล่ เป็นประจำทุกปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการบริการของผู้จำหน่ายส่งผลให้ ลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ ณ ศูนย์บริการรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศเกิดความรู้สึกมั่นใจได้เป็นอย่างดี
ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ณ สิงหาคม 2554

รายละเอียด                กรุงเทพ  ต่างจังหวัด                                           รวมทั่วประเทศ
ภาคกลาง   ภาคเหนือ  ภาคตะวันออกเฉียงเหรือ  ภาคใต้  รวม

โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน  41      32        21       24                  21     98   139

โชว์รูมเท่านั้น(ไม่มีศูนย์บริการ)  -       2         -        -                   -      2    2

ศูนย์บริการเท่านั้น(ไม่มีโชว์รูม)  -       -         2        1                   -      3    3

โชว์รูม / ศูนย์บริการ ชั่วคราว  -       1         1        4                   -      6    6

รวม                      41      35        24       29                  21     109  150
สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติม
ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์
โทร. 02-529-9000

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15438.msg16994;topicseen#msg16994

Credit : คลิปพริตตี้

Lexus Ramintra โดยบริษัท เลกซัส ออโต้ ซิติ้ จำกัด จัดกิจกรรม “Lexus Golf Tournament 2011”

Lexus Group ร่วมกับ Lexus Ramintra โดยบริษัท เลกซัส ออโต้ ซิติ้ จำกัดจัดกิจกรรม “Lexus Golf Tournament 2011” ณ Amata Spring Country Clubเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การดูแลตามแบบฉบับของ Lexus เมื่อวันที่ 6กันยายน 2554 ที่ผ่านมา
ส่วนการตลาด บริษัท เลกซัส ออโต้ ซิติ้ จำกัด
Lexus Ramintra Call Center : 02-521-1111
www.lexusautocity.com ; www.facebook.com/LexusAutoCity

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15437.msg16993;topicseen#msg16993

Credit : คลิปพริตตี้

Lexus Ramintra โดยบริษัท เลกซัส ออโต้ ซิติ้ จำกัด จัดกิจกรรม Workshop จัดดอกไม้สไตส์ญี่ปุ่น (IKEBANA) “TheHeart of Beauty”

Lexus Group ร่วมกับ Lexus Ramintra โดยบริษัท เลกซัส ออโต้ ซิติ้ จำกัด จัดกิจกรรม Workshop จัดดอกไม้สไตส์ญี่ปุ่น (IKEBANA) “The Heart of Beauty” ให้กับลูกค้าของ Lexus Ramintraโดยศิลปินนักจัดดอกไม้ชื่อดัง “คุณ สกุล อินทกุล” ผู้มีชื่อเสียงอย่างกว้าง ขวางในระดับนานาชาติซึ่งมีผลงานมากมาย มาเป็นวิทยากร เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา
ส่วนการตลาด บริษัท เลกซัส ออโต้ ซิติ้ จำกัด
Lexus Ramintra Call Center : 02-521-1111
www.lexusautocity.com ; www.facebook.com/LexusAutoCity

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15436.msg16992;topicseen#msg16992

Credit : คลิปพริตตี้

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม ชวนผู้โชคดี ดูหนังกัน...มันส์ยกก๊วน

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม ร่วมกับ วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ โมชั่น พิคเจอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ชวนผู้โชคดีจากกิจกรรม “ก๊วน ซิ่ง ซ่า” บนหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊ค 3M AUTO FILM Thailand ร่วมชมภาพยนตร์อนิเมชั่นรถซิ่งสุดป่วน “Cars 2 สายสืบสี่ล้อ...ซิ่งสนั่นโลก” รอบพิเศษกันแบบยกก๊วน พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมและรับของที่ระลึกจากฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟเวิล์ด ซินิม่า เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15390.msg16909;topicseen#msg16909

Credit : คลิปพริตตี้

(ซื้อ)น๊อตกลึงหัวทอง,หางปลา ครับ

ขอพื้นที่นายเจหน่อย 
(ซื้อ)น๊อตกลึงหัวทอง,หางปลา ครับ มีรูปช่วยโชว์ให้ดูด้วยครับ

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15387.msg16903;topicseen#msg16903

Credit : คลิปพริตตี้

ผลกระทบจากอุทกภัยในภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทยที่มีต่อการดำเนินธุรกิจของฮอนด้า

บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยถึงผลกระทบต่อธุรกิจของฮอนด้าจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นเนื่อง จากฝนตกหนักในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องนับแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ล่าสุดมีดังต่อไปนี้

- โรงงานผลิตของฮอนด้าทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ น้ำท่วมในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ผลิตให้กับฮอนด้าประสบปัญหาน้ำท่วมไม่สามารถจัด ส่งชิ้นส่วนให้ได้

- โรงงานผลิตรถยนต์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ถึงวันที่ 8 ตุลาคม เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม ได้มีน้ำไหลเข้าท่วมโรงงาน จึงทำให้ต้องหยุดการผลิต ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม เป็นต้นไป

- โรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้า บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ผลิตชิ้น ส่วนประสบปัญหาน้ำท่วมไม่สามารถจัดส่งชิ้นส่วนเพื่อการผลิตให้ได้ ซึ่งในส่วนของเครื่องยนต์อเนกประสงค์ได้หยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 6 ถึงวันที่ 8 ตุลาคม และยังคงหยุดผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่สามารถคาดการณ์การฟื้นตัวของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรถจักรยานยนต์ยังสามารถดำเนินการผลิตได้อยู่ ทั้งนี้ อุปกรณ์และเครื่องจักรภายในบริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ยังไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมแต่อย่างใด

- ฮอนด้าจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะทุ่มเทความพยายามในการบริหารจัดการอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้โดยเร็วที่สุด

- ฮอนด้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย และหวังว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ จะกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว บริษัทฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่อาจจะเกิดขึ้นต่อลูกค้าทุกท่านมา ณ ที่นี้ และหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบต่อไป

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=15386.msg16900;topicseen#msg16900

Credit : คลิปพริตตี้

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ไขข้อข้องใจเหล่าเซเลบสาวๆ ในการขับขี่ปลอดภัย และช่วยประหยัดน้ำมัน กับโครงการ “Driving Skills for Life” โดย ฟอร์ด ประเทศไทย


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่าสาวๆ จากหลากหลายวงการได้รวมตัวกัน ทั้งคู่พี่น้องดีไซเนอร์ เพื่อนซี้นางงาม เพื่อนซี้เซเลบริตี้ เพื่อนซี้ผู้ประกาศข่าว อาทิ ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล, ม.ร.ว.นิภานพดารา ยุคล, ม.ล.อรณิช กิติยากร, ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา, กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์, ศศิชา รัตนถาวร, ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2550 และ รฐกร สถิรบุตร รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2552 มาร่วมอบรมในโครงการ “Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 นำทีมโดย ชยภัค ลายสุวรรณ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฟอร์ด ประเทศไทย พร้อมด้วยวิทยากรฟอร์ด เชษฐา ศรีกาญจนเพริศ ที่มาเผยเทคนิคเคล็ดไม่ลับให้สาวๆ ขับรถเป็น ไม่ใช่ขับรถได้ และยังพาหล่าสาวๆ ร่วมทริปแข่งขันขับขี่ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน โดยออกสตาร์ทจากกรุงเทพฯ ณ โรงแรมเรเนซองส์ ถนนราชประสงค์ มุ่งหน้าสู่ ซิลเวอร์ เลค พัทยา จ.ชลบุรี ไร่องุ่นท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย โดยทีมชนะจากการแข่งขันขับขี่ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน ในครั้งนี้ได้แก่ คู่เพื่อนซี้ผู้ประกาศข่าว กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์ และศศิชา รัตนถาวร ที่สามารถขับขี่รถยนต์ประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด ที่อัตราเฉลี่ยน้ำมัน 1 ลิตร ต่อระยะทาง 20.76 ก.ม.

ความ สนุกสนานในโครงการ “Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย” ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 โดยฟอร์ด ประเทศไทย ในครั้งนี้ ไม่เพียงเหล่าบรรดาสาวสวยจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศสวยของไร่องุ่น ซิลเวอร์ เลค พัทยา จ.ชลบุรี ในทริปการแข่งขันการขับขี่ปลอดภัยประหยัดน้ำมัน ที่ก่อนจะออกเดินทาง สาวๆ ยังได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีต่างๆ ก่อนลงมือปฏิบัติบนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าสาวๆ ยังได้รับคำตอบที่คาใจ เกี่ยวกับการใช้รถที่ถูกต้อง เพื่อความความปลอดภัย และช่วยประหยัดน้ำมัน ที่ผู้หญิงต้องรู้ จาก เชษฐา ศรีกาญจนเพริศ วิทยากรฟอร์ด ซึ่งเผยว่า “เชื่อว่าหลายคนมักจะเคยได้ยินว่า “อ๋อ คันหน้าผู้หญิงขับ” แล้วผู้หญิงก็จะเกิดความกังขาว่า แล้วผู้หญิงขับรถมันเป็นอย่างไร ต่างกันตรงไหนหรือ ซึ่งต้องมาพิจารณาและเข้าใจในธรรมชาติการขับรถระหว่างผู้หญิงและผู้ชายกัน ก่อนว่า ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมการขับรถที่เร็ว และมีการตัดสินใจที่ชัดเจนและไว แต่ในขณะที่พื้นฐานของผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นเพศที่ขี้กลัว การตัดสินใจช้า ดังนั้นเวลาขับรถ พอมีช่วงจังหวะให้ออกได้ ก็จะลังเลออกไม่ออก ในขณะที่คันหลังเป็นผู้ชายขับมาด้วยความเร็วชนท้ายเข้า อุบัติเหตุจึงเกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย การขับขี่รถยนต์สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สติ และสมาธิ รวมถึงการฝึกฝนในการขับขี่ที่ต้องมีความชำนาญ และการกล้า”

นอกเหนือ จากภาคทฤษฎีขั้นพื้นฐานที่เหล่าสาวๆ ได้เรียนรู้ อาทิ การปรับเบาะนั่งที่เหมาะสม, คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลา, การปรับกระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง ที่เหมาะสม, การจับและหมุนพวงมาลัยที่ถูกวิธี, ตำแหน่งการวางเท้าที่ถูกวิธี, การรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า ประมาณ 3 วินาที, การมีสมาธิในการขับ, การใช้เบรกในสถานการณ์ต่างๆ และการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดแล้ว

เหล่าสาวๆ ยังได้ซักถามไขข้อข้องใจจากกูรูผู้รอบรู้ของรถยนต์ฟอร์ด อาทิ หาก คันเร่งค้าง จะทำอย่างไร ซึ่งหากรถยนต์มีอาการคันเร่งค้าง สิ่งแรกที่ควรทำคือ ควรตั้งสติแล้วลองเหยียบเบรก หากเหยียบแล้วรถยังไม่ชะลอหยุด ให้ลองเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นยกเบรกมือขึ้น โดยดึงขึ้นยกลงย้ำๆ หลายๆ รอบ ซึ่งหากความเร็วยังไม่ลดลง ให้ดับเครื่องยนต์ทันที หรือหากขับรถขณะฝนตกแล้วเกิดฝ้าขึ้นที่บริเวณกระจกด้านข้าง วิธีการแก้ไขคือการกดปุ่มละลายฝ้า พร้อมกับปรับเร่งแอร์ให้เย็นขึ้น เพราะการเกิดฝ้าที่กระจกนั้น เกิดจากอุณหภูมิภายในห้องโดยสารสูงกว่าอุณหภูมิภายนอกรถยนต์ที่เย็นกว่า หรือ การจอดรถติดระหว่างขึ้นสะพาน

หรือติดไฟแดง ควรทำอย่างไร ควรจะเข้าเกียร์ว่าง แล้วดึงเบรกมือขึ้นด้วย เพราะหากเปลี่ยนเกียร์มาไว้ที่เกียร์จอดรถ หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน การเปลี่ยนจากเกียร์ว่าง มาที่เกียร์ขับรถ จะสะดวกและทันท่วงทีกว่า การยืดอายุการใช้งานที่ปัดน้ำฝน พยายามหลีกเลี่ยงการจอดตากแดด และไม่ควรยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพราะจะทำให้สปริงที่ข้อต่อเสียได้ และการเปลี่ยนผ้าเบรกรถยนต์ ก่อนเปลี่ยนให้เช็คที่น้ำมันเบรกว่าพร่องลงไปไหม หรือเวลาเหยียบเบรกแล้วมันเหยียบลึกมากไปหรือไม่ แต่ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนโดยประมาณคือ 50,000 ก.ม. หรือ 2 ปี

เมื่อ ได้เรียนรู้หลักทฏษฎี ก็ถึงเวลาที่เหล่าสาวๆ ได้ลองลงมือปฏิบัติกับการแข่งขันและเรียนรู้วิธีการขับขี่ประหยัดน้ำมัน และปลอดภัย โดยมีจุดมุ่งหมายที่ ซิลเวอร์ เลค พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งทีมชนะในการขับขี่ประหยัดน้ำมัน และปลอดภัย คือ คู่เพื่อนซี้ ผู้ประกาศข่าว กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์ และศศิชา รัตนถาวร ที่สามารถขับขี่รถยนต์ประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด ซึ่งเฉลี่ยน้ำมัน 1 ลิตรต่อระยะทาง 20.76 ก.ม. โดย มายด์ - กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้ประกาศข่าวและพิธีกร เผยถึงการชนะในครั้งนี้ว่า “มายด์ได้ลองทำและเรียนรู้ตามที่เทรนเนอร์บอก คือขับความเร็วไม่เกิน 90 ก.ม./ช.ม. ประกอบกับดูไมล์รถยนต์ให้สัมพันธ์กัน คือวิ่งที่ 2,000 — 2,500 รอบ พร้อมกับปรับแอร์ให้ได้ความเย็นที่ 25?C”

ผู้เข้าร่วมแข่งขันทีม อื่นๆ เช่น หญิงแอร์ - ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล เผยว่า “เคยมีประสบการณ์อุบัติเหตุไม่คาดฝัน ขับรถชนเสยเสาไฟฟ้าที่หน้ามหาวิทยาลัย แรงขนาดว่าถุงลมนิรภัยออกมาทำงาน ตัวเองก็บาดเจ็บแต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก หลังจากนั้นมาทำให้การขับขี่รถยนต์จะระมัดระวังมากขึ้น ไม่ขับรถเร็วจนเกินไป อย่างที่ได้มาอบรมในโครงการนี้ เทรนเนอร์ได้พูดถึงเข็มขัดนิรภัย มีส่วนช่วยมากจริงจริงๆ ค่ะ เพราะวันนั้นถ้าตัวเองไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยคงจะเป็นอุบัติเหตุที่หนักกว่า นั้นมาก ต้องยอมรับว่าการมาอบรมในครั้งนี้ มีบางเรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว แต่ก็มีบางเรื่องที่เราไม่รู้ รวมถึงการดูแลรักษารถยนต์อย่างไรให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งานได้ อย่างปลอดภัย โดยไม่เกิดอุบัติเหตุทั้งตัวเอง และผู้อื่น ถือว่าเป็นการมารื้อฟื้นความจำอีกรอบค่ะ”

ในขณะที่คู่เพื่อนซี้นาง งาม อย่าง กวาง - ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2550 และ กี้ - รฐกร สถิรบุตร รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2552 เผยถึงการมาร่วมในโครงการนี้ โดยนางงามรุ่นพี่ ฟ้ารุ่ง เผยว่า “การมาอบรมในโครงการนี้ดีมากค่ะ และก็สนุกมาก ต้องยอมรับว่าความรู้ที่ได้รับมาในครั้งนี้มีประโยชน์มาก บางเรื่องเป็นเรื่องที่เรารู้ แต่ลืม หรือไม่ได้ทำ ก็มี อย่างการขับขี่ประหยัดน้ำมัน กวางรู้นะว่าถ้าเราขับไม่เกิน 90 ก.ม. / ช.ม. จะประหยัดน้ำมัน แต่เราไม่เคยทำ เพราะไม่เคยมีใครมาวัดให้เห็นเป็นรูปธรรม แต่วันนี้กวางเห็นแล้วค่ะว่ามันประหยัดน้ำมันได้จริง เพราะทีมชนะเขาขับตามที่อบรม น้ำมัน 1 ลิตร ขับได้ถึง 20.76 ก.ม. ในขณะที่ทีมเรามาเป็นอันดับที่ 4 ใช้น้ำมัน 1 ลิตรเท่ากัน แต่ขับได้ไกลแค่ 15.75 ก.ม. เท่านั้น ฉะนั้นที่ผ่านมาเราขับรถเผาผลาญน้ำมันไปมากขนาดไหน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ค่ะ ที่กวางจะนำมาปรับวิธีการขับขี่รถใหม่อีกครั้ง”

ด้าน สาวกี้ - รฐกร สถิรบุตร รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2552 เผยว่า “สนุกมากค่ะ เพราะระหว่างทางที่ขับมายังพัทยา พี่เทรนเนอร์ที่นั่งมาด้วย จะคอยสอนคอยบอกเทคนิคต่างๆ ซึ่งมีทั้งที่ตัวเองรู้อยู่แล้วบ้าง กับไม่เคยรู้เลย แต่มีคำพูดหนึ่งที่ตรงใจกี้ทำให้ต้องสะท้อนมองดูตัวเองคือ พี่เขาบอกว่าคนที่ขับรถเป็น กับ คนที่ขับรถได้ มันต่างกัน จึงทำให้รู้สึกว่าแล้วนี่ฉันขับรถเป็น หรือ ขับรถได้แค่ให้มันเคลื่อนตัวออกไปอยู่ ซึ่งทำให้กี้ต้องกลับมาปรับปรุงเรื่องการขับขี่รถของตัวเอง หากไม่รีบมาก เราก็ค่อยๆ ขับไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเป็นการฝึกนิสัยในการขับขี่รถที่นุ่มนวลขึ้นด้วยค่ะ เพราะกี้เป็นคนที่ชอบขับรถมากค่ะ”

ส่วน ยุ้ย - ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา เผยว่า “ด้วยความที่เป็นคนขับรถเร็ว ทำให้เราระมัดระวังแต่เรื่องอุบัติเหตุ แต่ไม่เคยระวังเรื่องการประหยัดน้ำมัน พอได้มาแข่งขันมันทำให้เราเห็นภาพมากยิ่งขึ้น ว่าถ้าเราปฏิบัติตามที่เทรนเนอร์บอก ขับที่ความเร็วเท่านี้ อุณหภูมิเท่านี้ จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ หรือหากคันเร่งค้าง ถ้าเป็นเราที่อยู่ในสถานการณ์ ก็คงจะแค่เหยียบเบรก แต่จริงๆ แล้วเบรกมือก็ยังนำมาใช้ได้ แต่คนส่วนใหญ่อาจจะลืม หรือไม่รู้ จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้รู้ว่าบางครั้งการเลือกซื้อรถยนต์ เราไม่ควรจะตัดสินจากดีไซน์ที่สวยงาม แต่เราควรเลือกที่สมรรถนะในการขับขี่ที่จะช่วยให้เราปลอดภัยมากกว่า แต่นอกเหนือจากนั้นเราก็ต้องดูแลตัวเองด้วย เช่นต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หรือท่วงท่าในการขับขี่ที่ต้องปลอดภัยด้วยเช่นกัน รวมถึงสมาธิสำคัญมาก ต่อให้รถดีขนาดไหน มีระบบเซฟตี้เลิศมากเท่าใด แต่หากคนขับขาดมาธิแล้วก็ไม่ช่วยอะไรค่ะ”

และเพื่อนสาวคนสนิท น้ำอบ - ม.ล.อรณิช กิติยากร เผยว่า “เป็นคนค่อนข้างใจร้อน พอเห็นถนนโล่งเป็นต้องเหยียบ พอได้มาอบรมได้ความรู้ที่เยอะมาก และที่สำคัญยังได้เรียนรู้ว่าการขับรถจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะสิ่งไม่คาดฝันมันกเกิดขึ้นได้ทุกเวลาจริงๆ อุปกรณ์ในรถสามารถช่วยเหลือเราได้จริง แต่สติเราก็ต้องมี ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้อุปกรณ์ด้วยว่า หากเกิดเหตุการณ์คับขันขึ้นมา เราจะสามารถใช้อะไรก่อนหรือหลัง ซึ่งบางอย่างที่เทรนเนอร์บอกในวันนี้มันคือความจริงนะ อย่างหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เช่น คันเร่งเสีย มันมีวิธีที่เราจะเอาชีวิตได้มากมาย หากทำทุกอย่างแล้วไม่เป็นผล ก็ดับเครื่องซิ ทุกอย่างก็จบ ก็รอด แต่คนส่วนใหญ่มักจะชอบกลัวว่า ถ้าเกิดทำลงไปแล้วรถฉันจะเสียจะพังแน่ๆ แต่กลับไม่ยอมคิดว่าถ้าตัดสินใจทำแล้วชีวิตฉันรอด อะไรคือสิ่งที่มันคุ้มกว่ากัน”

สาวได้รู้เคล็ดลับดีๆ มากมายเกี่ยวกับการขับขี่ที่ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันกันไปแล้ว หลังจากนี้ไปจะมากล่าวหากันไม่ได้แล้วนะว่าคันหน้า “ผู้หญิงขับ”
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14937.msg16283;topicseen#msg16283

Credit : คลิปพริตตี้

งานเปิดตัว Lamborghini Gallardo LP550-2 Tricolore

ประเทศอิตาลีรวมตัวกันก่อตั้งเป็นประเทศเมื่อปี 2404 หรือเมื่อ 150ปีก่อน โดยกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ได้รวมรัฐต่างๆ ที่อยู่ในคาบสมุทรนี้และเกาะซิซิลี โดยมีเมืองตูรินเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอิตาลียุคใหม่ มาสถาปนาเป็นประเทศอิตาลี ดังนั้นบริษัท นิช คาร์ จำกัดตัวแทนจำหน่ายแลมโบร์กินีแห่งเดียวในประเทศไทย จึงร่วมเฉลิมฉลองการรวมประเทศของอิตาลี ด้วยการเปิดตัวรถซุปเปอร์คาร์สายพันธุ์อิตาลีเมื่อวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2554ที่ผ่านมา ณ โชว์รูมแลมโบร์กินี ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยคุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชคาร์ จำกัด เจ้า Lamborghini Gallardo Tricolore ภายใต้รหัส LP550-2 เป็นรุ่นพิเศษที่ทางแลมโบร์กินีผลิตออกมาเพื่อเฉลิมฉลองการรวมประเทศของ อิตาลี ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียงแค่ 150 คันทั่วโลกเท่านั้น ความพิเศษของเจ้ากระทิงตัวนี้ จัดทำเพียง 2 สี มีสีขาวและสีดำ และมีลายอันโดดเด่นเป็นลายเขียวแดง(ธงชาติ อิตาลี) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของไตรคัลเลอร์ คาดผ่านลำตัวตั้งแต่ทางด้านหัวรถไปจรดท้ายรถ หัวใจของเจ้ากระทิงนี้คือ เครื่องยนต์ 10สูบ ขนาด 5.2ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อหลังให้พละกำลังสูงสุดถึง 550 แรงม้า ทำให้เจ้ากระทิงตัวนี้สามารถพุ่งด้วยความเร็วจาก 0-100 โดยใช้เวลาเพียง 3.9 วิ เท่านั้น และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงสามารถครอบครองเจ้ากระทิงตัวพิเศษตัวนี้ได้โดยติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถ แลมโบร์กินีแห่งเดียวในประเทศไทย บริษัท นิช คาร์ จำกัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-3794422*115 นิชคาร์

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14916.msg16257;topicseen#msg16257

Credit : คลิปพริตตี้

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

เปิดโชว์รูมนิสสันแห่งใหม่ สาขา 11 เพชรบุรีตัดใหม่ “ฉลอง 60 ปี สยามกลการ” ปีพุทธศักราช 2555


กลุ่มสยามกลการ รุกแผนขยายตลาดรถยนต์นิสสัน ผุดเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์นิสสันมาตรฐานแห่งใหม่ สาขาที่ 11 เพชรบุรีตัดใหม่ อย่างเป็นทางการ เพื่อจำหน่ายและบริการหลังการขายรองรับลูกค้า ที่ใช้รถยนต์นิสสันที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นชูศักยภาพโชว์รูมและศูนย์บริการที่มี มาตรฐานครบวงจรทันสมัย พร้อมเตรียมเปิดสาขารามคำแหงเป็นแห่งที่ 12 ปลายปีนี้ เผยปีหน้า “สยามกลการ” ครบรอบ 60 ปีจัดงานยิ่งใหญ่ ปรับโฉมโชว์รูมสำนักงานใหญ่เป็นรูปแบบ Nissan Gallery

คุณประนัปดา พรประภา กรรมการ บริษัท สยามกลการเซลส์ จำกัด และ บริษัท สยามกลการเทรดดิ้ง จำกัด หนึ่งในกลุ่มสยามกลการ เปิดเผยว่า “จากการเติบโตของตลาดรถยนต์นิสสันในประเทศไทย ที่มีการเติบโต อย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มสยามกลการ เล็งเห็นว่าเพื่อเป็นการรองรับลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ่นในทุกพื้นที่ เราจึงควรเร่งขยายเพิ่มสาขารองรับการให้บริการของลูกค้า โดยล่าสุด คือ โชว์รูมสาขาเพชรบุรีตัดใหม่ นับเป็นโชว์รูมที่ 11 ของกลุ่มสยามกลการ โดยใช้เงินลงทุนไปกว่า 85 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน บนพื้นที่ 3,495 ตารางเมตร ไม่รวมลานจอดรถอีก 2,700 ตางรางเมตร ที่มีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาการจอดรถในละแวกนั้น โดยเป้าหมายหลัก คือ ความต้องการลูกค้าผู้ใช้รถยนต์นิสสันที่ทำงานอยู่ในเมือง หรือพักอาศัยอยู่ในย่านธุรกิจพื้นที่สำคัญ ๆ ได้แก่ เพชรบุรีตัดใหม่, สุขุมวิท, คลองตัน, รัชดาภิเษก, พระราม 9, เอกมัย, อโศก และพัฒนาการ ให้เข้ารับบริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สำหรับโชว์รูมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ด้านขาย ส่วนของโชว์รูมมีพื้นที่ 380 ตารางเมตร มีเจ้าหน้าที่ และมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์นิสสันทุกรุ่น คอยให้คำแนะนำปรึกษาด้านการขาย ส่วนด้านบริการ มีพื้นที่ 2,040 ตารางเมตร ซึ่งคุณจะมั่นใจกับบริการหลังการขายจากช่างมืออาชีพที่ได้รับการอบรมจากนิ สสัน มอเตอร์ มีช่องซ่อมบริการเร่งด่วน 30 ช่องซ่อม สามารถรองรับรถเข้าบริการได้ถึง 2,700 คันต่อเดือน ด้วยอุปกรณ์ และเครื่องมือทันสมัยได้มาตรฐานเฉพาะรถยนต์นิสสัน นอกจากนั้น ยังมีเครื่องมือ Hitech เป็นพิเศษ, เครื่องมือตรวจวิเคราะห์ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่แม่นยำรุ่นใหม่ล่าสุด ชุด CONSULT-III, ระบบ Computer Online สามารถเก็บข้อมูลประวัติการซ่อมรถทุกคันบนฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์อันทันสมัย ตลอดจน มีคลังอะไหล่สำรองพร้อมให้บริการกว่า 10,000 รายการ สามารถเบิกอะไหล่ ทั้งจากรายการในสาขาและจากคลังส่วนกลาง รวมทั้ง 10 สาขาได้อีกด้วย สิ่งสำคัญคือ ความพร้อมในส่วนของทีมช่างมีความรู้มีความสามารถสูง และทีมงานบริการมืออาชีพ ที่ผ่านการฝึกอบรมกับทาง Nissan Motors (Thailand) สั่งสมประสบการณ์ทำงานในด้านรถยนต์นิสสันมากว่า 20 ปี นอกจากนั้น ในช่วงปลายปีนี้ ทางเราเตรียมจะเปิดโชว์รูม สาขาที่ 12 อีกหนึ่งแห่ง คือสาขารามคำแหง เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทางโซนรามคำแหงและสุขาภิบาล 2-3 พร้อมทั้งปรับปรุง
โฉมสาขาอื่นๆ ที่มีอยู่ให้ทันสมัย และสวยงามเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุด

คุณ ประนัปดา กล่าวต่อไปว่า สำหรับด้านงานขายการตลาดของรถยนต์นิสสันนั้น กลุ่มสยามกลการมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยใน ปี 2553 ที่ผ่านมานั้น มียอดขายสูงถึง 5,147 คัน เติบโตขึ้นจากปี 2552 ถึง 108% สืบเนื่องจากนิสสันได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา คือ Nissan March ซึ่งได้รับความนิยม และ การตอบรับจากผู้บริโภคอย่างสูงเติบโตต่อเนื่องมาจนถึงปี 2554 นี้ และยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยาน ยนต์ของทางภาครัฐอีกด้วย ตลอดจน ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ที่จะเปิดตัวในต้นเดือนหน้า และยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ กว่า 10 รุ่น ภายใน 5 ปี ที่สำคัญ ในปีหน้า คือ 2555 นั้น กลุ่มสยามกลการ จะครบรอบการดำเนินธุรกิจรถยนต์ในเมืองไทยมาครบ 60 ปี ทาง “สยามกลการ” มีการจัดกิจกรรม ฉลองครบรอบอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึง การปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่างอาคารสำนักงานใหญ่ปทุมวัน ให้มีรูปแบบเป็น Nissan Gallery ให้ได้ชมกัน” คุณประนัปดา กล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง กลุ่มสยามกลการ มีโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์นิสสัน จำนวน 11 สาขา คือ วิภาวดี, บางพลี, นนทบุรี, รังสิต, ปทุมวัน, พระประแดง, บางจาก, หนองแขม, ลาดพร้าว 101 , บางนา-ตราด กม.4 และล่าสุด เพชรบุรี ตัดใหม่ ที่พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่อไป

“โชว์ รูมและศูนย์บริการ” สาขา 11 เพชรบุรีตัดใหม่ เปิดบริการทุกวัน (ศูนย์บริการหยุดเฉพาะวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เท่านั้น เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม โทร.0-2718-0691-3 และศูนย์บริการ โทร.0-2718-0697-9
ประชาสัมพันธ์
บริษัท สยามกลการ จำกัด
โทร.02-328-4485,02-218-3158

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14847.msg16168;topicseen#msg16168

Credit : คลิปพริตตี้

เปิดตัว Vespa 2 สีใหม่ 2 สไตล์ เอาใจทั้งคอสปอร์ตและชาวมินิมอลลิสม์


บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้ารถสกู๊ตเตอร์เวสป้าและพิอาจิโอ เปิดตัวเวสป้า 2 รุ่น ด้วย 2 สีใหม่หวังเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยสองทางเลือก

หลังจากที่ได้รับ ผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมกับ Vespa S 150ie สีขาวและสีดำ ที่ทางเราได้เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มาถึงตอนนี้เราเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกพร้อมปลุกเร้าความสปอร์ตในตัวคุณด้วย

Vespa S 150ie สีส้ม Taormina ซึ่งมาในรูปโฉมสปอร์ตต้นแบบที่เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นเวสป้ากับเครื่องยนต์ 150 ซีซี นอกจากนี้แล้วเราขอเสนอ Vespa LX125ie สีบรอนซ์เงิน Grigio Liquido ซึ่งเป็นสี เรียบหรู คลาสสิคมีดีไซน์สำหรับผู้ที่ค้นหาดีไซน์ที่เรียบง่ายกับความเป็นมินิมอ ลลิสม์ ชัดเจนในความคลาสสิก ด้วยเส้นสายโค้ง ลงตัวทุกมุมมอง

คุณพร นฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถสกู๊ตเตอร์เวสป้าถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีไฮเทคที่ไม่ได้ละทิ้งซิก เนเจอร์เฉพาะตัวของเวสป้า และเราเองก็มีแรงบันดาลใจที่จะครีเอทสิ่งใหม่ๆเพื่อนักขับขี่เวสป้า เราจึงมุ่งมั่นและคิดค้นเพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเราเสมอ นอกจากนี้แล้วทั้งสอง 2 สีใหม่นี้เราเอาใจบุคคลที่หลงใหลความเป็นสปอร์ตด้วยสีส้มที่ดูพร้อมทะยานกับ ความโฉบเฉี่ยว ขณะเดียวกันนี้เรายังนำสีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นสีที่เรียบหรู คลาสสิค มีดีไซน์ในทุกยุคทุกสมัย เพื่อตอบรับกระแส retro ที่มาแรงในขณะนี้ ตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมกับการพัฒนาระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอัจฉริยะ อิเล็กทรอนิกส์รุ่นล่าสุดซึ่งคิดค้นและพัฒนาที่ Pontedera สำนักงานใหญ่ของบริษัทพิอาจิโอ กรุ๊ป (Piaggio Group) หนึ่งในศูนย์วิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกลงในเวสป้า 125 และ 150 ซีซี ที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานมลพิษ Euro3 ที่จะเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่ยังคงการออกแบบที่คลาสสิก และรักษาคาแร็กเตอร์ตามแบบฉบับของเวสป้าไว้ไม่เปลี่ยนแปลงอีกด้วย”

พบ กับ Vespa 2 สีใหม่ทั้ง Vespa S 150ie สีส้มสุดสปอร์ต และเรียบง่ายสไตล์มินิมอลลิสม์ Vespa LX 125ie สีบรอนซ์เงิน จากบริษัท เวสปิอาริโอ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่แฟลกชิพ สโตร์ทั้ง 2 สาขา ทั้งทองหล่อ และอาร์ซีเอ หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย)

โทร : 02-714-7742 หรือ www.vespa.co.th หรือรับข่าวสารประชาสัมพันธ์จากเวสป้าและพิอาจิโอ
ผ่านทางFacebook เพียงกดไลค์ www.facebook.com/vespathailand และ
www.facebook.com/PiaggioSocietyThailand

สำหรับสื่อมวลชน ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านข่าวประชาสัมพันธ์หรือรูปภาพ กรุณาติดต่อ
ดลธชา ทิพย์ชาญดำรง (จ๊อยซ์)
บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร : 02-714-7742 ต่อ 402
อีเมล์ : joyce@vespiario.com

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14846.msg16167;topicseen#msg16167

Credit : คลิปพริตตี้

ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 245 รถปิกอัพ "อีซูซุดีแมคซ์" ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้แก่วงการรถยนต์เมืองไทยตลอดมา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จึงมีความยินดีขอเรียนเชิญท่านร่วมงานแถลงข่าว และงานเลี้ยงแนะนำรถปิกอัพ "อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!" (the All-new Isuzu D-Max) ซึ่งจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมีรายละเอียดดังนี้
16.30 - 17.00 น. สื่อมวลชนลงทะเบียน

17.00 - 18.00 น. การแถลงข่าวเปิดตัว "อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!" (the All-new Isuzu D-Max)

18.00 - 20.30 น. งานเลี้ยงแนะนำ "อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!" (the All-new Isuzu D-Max)
ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 ด้วยเทคนิคแสง สี เสียง สุดอลังการ
(การแต่งกาย : ชุดสากลนิยม หรือชุดสุภาพ)

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14845.msg16165;topicseen#msg16165

Credit : คลิปพริตตี้

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

แตะรถ ชิงรถ บันลือโลก

การแข่งขัน Subaru Impreza Challenge Thailand 2011 แตะรถ ชิงรถ บันลือโลก เฟ้นหา 10 คนแกร่ง หัวใจอึด ตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมชิงชัยระดับภูมิภาคในรายการ The MediaCorp Subaru Impreza Challenge 2011-The Asian Face-off ที่ประเทศสิงคโปร์ ชิงรางวัลใหญ่รถยนต์ Subaru Impreza WRX 2.5 sedan มูลค่า 2.4 ล้านบาท

นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กิจกรรม Subaru Impreza Challenge Thailand นั้นเริ่มขึ้นเมื่อปี 2008 เป็นครั้งแรก และได้จัดต่อเนื่องกันมาทุกปี วัตถุประสงค์หลักเพื่อค้นหา 10 คนแกร่ง หัวใจอึด เป็นตัวแทนประเทศไทยแข่งแตะรถยนต์ Subaru Impreza ร่วมกับตัวแทนที่ได้รับจากการคัดเลือกจากกลุ่มบริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ อีก 9 ประเทศด้วยกัน คือ จีน, กัมพูชา, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, เวียดนาม และสิงคโปร์ ในรายการ The MediaCorp Subaru Impreza Challenge 2011-The Asian Face-off ที่ประเทศสิงคโปร์

สำหรับ ผู้ที่พลาดรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน แต่สามารถแตะรถได้นานที่สุดระหว่างกลุ่มคนไทยด้วยกัน จะได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 1,000 สิงคโปร์ดอลลาร์ และผู้เข้าแข่งขันที่สามารถแตะรถได้นานที่สุดในผู้เข้าแข่งขันจากทั้ง 8 ประเทศ (ไม่ร่วมผู้แข่งขันจากประเทศสิงคโปร์) จะได้รับรางวัลเงินสดเพิ่มอีก 5,000 สิงคโปร์ดอลลาร์

ผู้เข้าร่วมแข่งขันประเภททีมที่สามารถแตะรถ ได้นานที่สุดจะได้รับเงินสด จำนวน 10,000 สิงคโปร์ดอลลาร์ โดยจะนำเวลาในการแตะรถรวมกันของผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียทั้ง 9 ประเทศ ซึ่งหากประเทศใดทำเวลารวมกันได้นานที่สุดจะเป็นทีมที่ได้รับรางวัลไป และสำหรับผู้ที่แตะรถได้นานที่สุดจะได้รับรถยนต์ Subaru Impreza WRX 2.5 sedan เป็นรางวัลสูงสุด

การแข่งขัน The MediaCorp Subaru Impreza Challenge 2011-The Asian Face-off ที่ประเทศสิงคโปร์ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ หรือจนกว่าจะได้ผู้ชนะเลิศคนแกร่ง หัวใจอึด ที่แตะรถได้นานที่สุดเพียงคนเดียว

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14640.msg15918;topicseen#msg15918

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย Mio ตัวแรกชุดสีใหม่ๆ

Yamaha Mio อะมอเร่ 115 CC.

รถสีแดงตรงเล่ม ชุดสีเบิกใหม่กริ๊บๆ

เครื่องแน่นๆ สภาพเครื่องใช้ได้ ล้อ 17 “

จดทะเบียน มิถุนายน 48 เอกสารเล่ม

พร้อม+ชุดโอนลอย ภาษี+พ.ร.บ พึ่งต่อ

รถทะเบียน มตค – 931 กรุงเทพฯ

ร้าน TTspeed ซ. นวลจันทร์ 36

084-716-6600, 02-944-0970

มีรถอีกหลายคันให้เลือกสนใจดูได้ที่นี่
มอเตอร์ไซค์มือสอง



จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14639.msg15917;topicseen#msg15917

Credit : คลิปพริตตี้

“ซูบารุ” ได้ตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขัน “แตะรถ ชิงรถ บันลือโลก”


นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขัน “Subaru Impreza Challenge Thailand 2011” ครั้งที่ 4 จำนวน 10 คน ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์, พ๊อกเกตมันนี่, พร้อมที่พักฟรี เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน “แตะรถ...ชิงรถ” ระดับภูมิภาคในรายการ The MediaCorp Subaru Impreza Challenge 2011 — The Asian Face-off ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 เพื่อชิงรางวัลใหญ่รถยนต์ Subaru Impreza WRX 2.5 sedan มูลค่า 2.4 ล้านบาท ณ ลานกิจกรรม Square B ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้

ที่มา : ThaiPR.net

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14638.msg15915;topicseen#msg15915

Credit : คลิปพริตตี้

ขายนูโวอิลิแกนซ์ปี52

Yamaha Nouvo Eleglance

ขนาดเครื่อง 135 CC. ระบายความ

ร้อนด้วยหม้อน้ำ สภาพเครื่องเดิม

ชุดสีมีรอยบ้าง โดยรวมรถพร้อมใช้

จดทะเบียน กุมภาพันธ์ 2552

เอกสารเล่มพร้อมโอน ภาษีไม่ขาด

รถทะเบียน วษง – 746 กรุงเทพฯ

ร้าน TTspeed ซ. นวลจันทร์ 36

084-716-6600, 02-944-0970




Credit : คลิปพริตตี้

แฟรงค์เฟิร์ต ออโต โชว์

คาร์ล-ฟรีดริช สตราเค่ ซีอีโอของอดัม-โอเปิล เปิดตัวโอเปิล ราเก้ (Opel Rake) รถต้นแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เป็นการยืนยันว่าโอเปิล ยังสบายดีในตลาดเมืองเบียร์

พริตตี้รุ่นใหญ่มาเอง นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี พร้อมด้วย ดีเตอร์ เซสต์เชอ ซีอีโอเมอร์เซเดส เบนซ์ ยืนอยู่ข้างๆ เมอร์เซเดส เอฟ 125 คอนเซ็ปต์ คาร์ รุ่นล่าสุดของค่ายดาว 3 แฉก

ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู ไม่น้อยหน้ากับไอ-8 (i-8) คอนเซ็ปต์ คาร์ ที่เน้นความโฉบเฉี่ยวตามสไตล์ค่ายใบพัดฟ้า-ขาว
พริตตี้สาวเดินโชว์โฉมใกล้กับ ลัมโบกินี การ์ญาโด สุดยอดรถสปอร์ต สีแดงสด

แต่สาวกออดี้คงทำหน้าปั้นยาก เมื่อได้เห็น ออดี้ อี คอทเซ็ปต์ เออร์เบิน รถต้นแบบรุ่นล่าที่ดูแล้วยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร

ส่วน เฟียต ค่ายรถดินแดนรองเท้าบู๊ตอิตาลี เปิดตัวเฟียต แพนด้า รถเล็กเน้นความน่ารักกะทัดรัดและประหยัด แต่พริตตี้ไม่เข้ากับตัวรถเท่าไหร่...
อีกหนึ่งความภูมิใจของลัมโบกินี กับรุ่น Aventator LP 700-4 หน้าตา หล่อเหลาเอาการ

ค่ายโฟล์คสวาเก้น มาพร้อมกับ นีลส์ (Nils) รถต้นแบบรุ่นล่าสุด หน้าตา ทันสมัยไม่แพ้คู่แข่งร่วมชาติ

ปิด ท้ายที่วีโก้...ไม่ใช่เสียหน่อย มันคือเฟียต ฟรีมอนต์ รถปิกอัพสัญชาติอิตาลี ที่ดูแข็งแรงบึกบึนอยู่ในที แสดงว่าแฟรงค์เฟิร์ต ออโต โชว์ ก็ไม่ได้ลืมรถปิกอัพแต่อย่างใด

งานแสดงรถยนต์แฟรงค์เฟิร์ต ออโต โชว์ หรือ IAA จัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนีหรือ VDA มาตั้งแต่ปี 2440 ปีนี้จึงครบวาระ 64 ปี งานปีนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 เดือนนี้ และจะมีต่อไปจนถึงวันที่ 25 เดือนนี้ ปีนี้ มีผู้จัดแสดงกว่า 1,000 รายจาก 32 ประเทศ มาร่วมงานที่จัดขึ้นทุกๆ 2 ปีครั้ง ขณะที่คาดว่าในปีนี้ จะมีผู้สนใจในนวัตกรรมยานยนต์เข้าร่วมชมงานมากกว่
า 800,000 คน ส่วนภายในงานจะมี รถรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เรามาชมภาพกัน

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14636.msg15913;topicseen#msg15913

Credit : คลิปพริตตี้

วีโก้ปากน้ำVSดีแมกช่างจักร


จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14635.msg15910;topicseen#msg15910

Credit : คลิปพริตตี้

โคโยตี้ เด็ดๆ ลีลา น้อยฝ้าย มอเตอร์โชว์ 2011


จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14634.msg15909;topicseen#msg15909

Credit : คลิปพริตตี้

2011 The 32nd Bangkok International Motor Show 的 SG


จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14633.msg15908;topicseen#msg15908

Credit : คลิปพริตตี้

เดือนที่แล้วฮอนด้าขาย 7,359 คัน

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวน 7,359 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.3% ของตลาดรถยนต์โดยรวม (79,030 คัน)

ยอดจำหน่ายรถ ยนต์ฮอนด้าในเดือนสิงหาคม 2554 แบ่งเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้ บริโอ้ มียอดจำหน่าย 151 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.1% ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซิตี้ มียอดจำหน่าย 2,334 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.4% และแจ๊ซ มียอดจำหน่าย 2,603 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.9% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทซับคอมแพคท์ ส่วนฮอนด้า ซีวิค มียอดจำหน่าย 1,465 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.1% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทคอมแพคท์ ฮอนด้า แอคคอร์ด มียอดจำหน่าย 408 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.4% ในกลุ่มรถยนต์นั่ง ประเภทแฟมิลี่ ฮอนด้า ฟรีด มียอดจำหน่าย 29 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 2.5% ในกลุ่มรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ MPV และฮอนด้า ซีอาร์-วี มียอดจำหน่าย 369 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.6% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภท SUV/PPV

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14632.msg15907;topicseen#msg15907

Credit : คลิปพริตตี้

สาระนอกบ้านกับ...ลุงอ๊อด: ทดสอบ ฮอนด้า บริโอ้ ในอินเดีย โฉมเดียวกับที่ขายในเมืองไทย

เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในเว็บไซต์หลายแห่งของประเทศอินเดีย ต่างพากันลงภาพสปายช็อต การทดสอบรถยนต์ ฮอนด้า บริโอ้ ในประเทศอินเดียกันอย่างหนาตา โดยปิดบัง รูปโฉมเพียงเล็กน้อย เพราะจากภาพที่เห็น ก็เป็นรถรุ่นเดียวกับ ฮอนด้า บริโอ้ ที่ออกจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับ ฮอนด้า อินเดีย เพราะสูญเสียส่วนแบ่งใน เซกเมนท์นี้ ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีรถรุ่นใหม่จำหน่าย และเป็นเซกเมนท์ที่มียอดการจำหน่ายสูง แม้ว่าจะกำไรน้อยก็ตาม ฮอนด้า อินเดีย จะต้องทำยอดขาย บริโอ้ ให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 4,000 คัน จึงจำเป็นต้องพิถีพิถันกับคุณภาพรถเป็นพิเศษ

บริ โอ้ ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร เครื่องเดียวกับที่ใช้ในรุ่น แจ๊ส ของอินเดีย ให้กำลัง 90 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์ธรรมดา ซึ่งจะได้รับการลดหย่อนภาษีตามระเบียบของทางการอินเดีย ที่ลดภาษีให้สำหรับรถที่มีความยาวน้อยกว่า 4 เมตร โดย บริโอ้ ยาวเพียง 3.610 ม. คู่แข่งขันในเซกเมนท์นี้ มี เชฟวี่ บีต, มารูติ เอ-สตาร์ และ ฮุนได ไอ 10 กำหนดวางตลาดในเดือนกันยายนนี้ ขณะที่ ฮอนด้า แจ๊ส มีการไมเนอร์เชนจ์ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ส่วนเกียร์ออโต้ ซีวีที ที่มีจำหน่ายในเมืองไทยนั้น คาดว่า ฮอนด้า อินเดีย จะใช้เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ต่อไปในอนาคต

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14631.msg15900;topicseen#msg15900

Credit : คลิปพริตตี้

สาระนอกบ้านกับ...ลุงอ๊อด: บริดจสโตน อีโค่ แรลลี่

บริดจสโตน อีโค่ แรลลี่ ในอังกฤษ กระตุ้นประชาชนให้ตื่นตัวด้านพลังงานทดแทน

บริดจสโตน ประเทศอังกฤษ ร่วมกับ นายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีเทศบาลมหานครลอนดอน จัดขบวนคาราวาน อีโค่ แรลลี่ รถพลังงานทางเลือกทุกชนิดวิ่งข้ามเมือง เพื่อสนับสนุนวันสิ่งแวดล้อมโลก พร้อมจัดนิทรรศการแสดงด้านพลังงานทดแทนที่หลากหลาย โดยมีผู้เข้าร่วมคับคั่ง รถหลากชนิด ทั้งรถเอสยูวี รถสปอร์ต รถไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน หลายรูปแบบ ขณะที่ท่านนายกเทศมนตรี ประกาศแผนงานจะเพิ่มจำนวนสถานีบริการไฮโดรเจน ให้เพิ่มมากขึ้นทั่วกรุงลอนดอน

ถือ เป็นโอกาสดี ที่รถแท็กซี่กรุงลอนดอน หรือแบล็กแค็บ โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จากแบตเตอรี่ ปลอดไอเสีย ที่กรุงลอนดอนเตรียมเอาไว้ต้อนรับ และให้บริการในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี 2555 แบล็กแค็บ ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มผู้สร้าง อินเทลลิเจนท์ เอ็นเนอจี้ ร่วมมือกับวิศวกรของโลตัส, บริษัท ลอนดอน แท็กซี่ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนบางส่วนจากเทศบาลมหานครลอนดอน ที่พัฒนาให้เป็นรถไฮบริด สามารถเดินทางได้ 400 กม. ต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง ร่วมในขบวนคาราวานครั้งนี้ด้วย

นอก จากนั้น ยังมี ซิตี้คาร์ รถแอสตัน มาร์ติน ซิกเน็ท ความยาวตัวรถเพียง 3 ม. ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก โตโยต้า ไอคิว ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.3 ลิตร ให้กำลัง 99 แรงม้า ที่มีค่าไอเสียเพียง 110 กรัม/กม., และยังมี ออดี้ ทีที สปอร์ตคูเป้ เครื่องยนต์ดีเซล ให้เชื้อเพลิงไบโอดีเซล, ซีตรอง นีโม ที่ปรับเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยกำลังจากแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า และยังมีรถใช้พลังงานทางเลือกอื่นๆ ร่วมคาราวานอีกมาก

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14630.msg15899;topicseen#msg15899

Credit : คลิปพริตตี้

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

มิชลิน ชวนเยาวชนปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ในโครงการประกวดวาดภาพ หัวข้อ “พลังงานทางเลือก สู่ความยั่งยืน”


มิชลิน ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดประกวดวาดภาพระบายสีสำหรับเยาวชนระดับ ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ชิงทุนการศึกษากว่า 100,000 บาท ประจำปี 2554 ในหัวข้อ “พลังงานทางเลือก สู่ความยั่งยืน” เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมความสามารถด้านศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และการใช้เวลาว่างของเยาวชนให้เป็นประโยชน์

การ ประกวดแบ่งออกเป็น 3 ระดับทั่วประเทศ คือ ระดับ ประถมศึกษาปีที่ 1-3, ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในหัวข้อที่มิชลินกำหนด “พลังงานทางเลือก สู่ความยั่งยืน” ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพวาดแนวนอนขนาด 26 x 37 ซ.ม. (กระดาษวาดเขียนแผ่นใหญ่) สามารถใช้เทคนิคการวาดภาพและใช้สีได้อย่างอิสระ โดยรางวัลที่น้องๆ แต่ละระดับการศึกษาจะได้รับ คือ รางวัลที่ 1 ทุนการศึกษา 15,000 บาท รางวัลที่ 2 ทุนการศึกษา 10,000 บาท รางวัลที่ 3 ทุนการศึกษา 8,000 บาท และรางวัลชมเชย 3,000 บาท รวมทั้งสิ้น 15 รางวัล นอกจากนี้ โรงเรียนที่สนับสนุนผลงานนักเรียนเข้าประกวด และได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละระดับ จะได้รับทุนอุปกรณ์การศึกษา โรงเรียนละ 15,000 บาท หมดเขตส่งผลงานวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 นักเรียนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายโครงการประกวดวาด ภาพมิชลิน โทร. 02-831-8400 ต่อ 3247 / 3357 และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.michelin.co.th

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14597.msg15858;topicseen#msg15858

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย c70 ทะเบียน เครื่องดรีม


085-1116509 ต่อรองได้ 19,500 บาท

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14596.msg15857;topicseen#msg15857

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย ชาลี สวย ๆ งาม ๆ ซักคัน รูปด้านใน



รถ ชาลี แต่งสวย ขี่แบบไม่อาายใคร
- เครื่องใหม่ สตาร์ทมือ
- ยางสวย
- ดิสก์เบรกหลัง
สภาพตามรุปเลยครับ

081-2806980 โจ้ nano1300

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14595.msg15856;topicseen#msg15856

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย cb 400 ver.s ปี98 ท่อสูตร



ขาย cb 400 ver.s ปี98 อินวอย
เครื่องยนต์แห้ง เงียบ
สภาพสวย ท่อสูตร over ทั้งใบ
ผ้าเบรกหน้า หลังเต็ม
ยางบหน้า หลังเต็ม
ราคา 76000 รับเทริน CB400ทุกปี
สนใจโทร 080-0722347

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14594.msg15855;topicseen#msg15855

Credit : คลิปพริตตี้

ขาย Fino Extreme ปี 53 สีขาว-น้ำเงิน-ดำ รถสวยสภาพดี เครื่องไม่เคยแกะ



ขาย Fino Extreme ปี 53 สีดำ-น้ำเงิน-ขาว

รถสวยสภาพดี เครื่องแน่นเดิมๆไม่เคยแกะ

จดทะเบียน 30 ธค. 53

มีเล่มทะเบียนพร้อมโอน

ราคา 31500 บาท

สนใจราคาต่อรองได้ ติดต่อคุณตูน 087-6921956, 086-3326494

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14593.msg15854;topicseen#msg15854

Credit : คลิปพริตตี้

ยกเครื่อง Mio/Fino ตอนที่6 (ประกอบเสื้อสูบ และวิธีการจัดเรียงปากแหวน )

ตอนที่6 นี้จะเป็นการประกอบเสื้อสูบ และวิธีการจัดเรียงปากแหวน มาดูต่อกันเลยครับ
ประกอบวาล์วทั้งไอดีไอเสียเสร็จแล้ว กลับมาที่เครื่องยนต์ที่ตั้งรออยู่ ตอนนี้แกะประเก็นเก่าออกให้เลี้ยงเลยครับ


จัดปากแหวนบนล่างตามรูปคับ


จัดปากแหวนกวาดน้ำมันตาม รูป


ประกอบเสื้อสูบเลยครับ อย่าลืมใส่ประเก็นใหม่ก่อนนะครับ


อ่านต่อ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14591.msg15852;topicseen#msg15852

Credit : คลิปพริตตี้

เอเอเอสฯ สร้างปรากฎการณ์ เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมจากอังกฤษ ที่สุดของความสมบูรณ์แบบเบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที (Continental GT)


เอเอเอสฯ สร้างปรากฎการณ์ เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมจากอังกฤษ ที่สุดของความสมบูรณ์แบบเบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) ณ โรงแรมเรเนซองส์ สุดหรูย่านราชประสงค์
รูปลักษณ์ภายนอกที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและการออกแบบที่สวยงาม

พร้อมห้องโดยสารที่ถือเป็นงานฝีมือชิ้นเอกที่รวมทั้งความปราณีตและความร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน
อีกทั้งยังคงไว้ด้วยขุมพลังที่มากกว่าด้วยเครื่องยนต์ W12 (FlexFuel)
และเครื่องยนต์ V8 ใหม่ที่เสริมความคล่องตัว ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยม
รวมอยู่ในความสมบูรณ์แบบของ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที (Continental GT)

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย จัดงานเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมจากแดนผู้ดี ที่สุดของความสมบูรณ์ใหม่ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเรเนซองส์ ย่านราชประสงค์ ภายใต้ชื่องาน Exclusive Launch of The New Bentley Continental GT ตามคอนเซ็ป “An unbroken line” ที่สะท้อนถึงนวตกรรมและการออกแบบเส้นสายที่ไม่มีที่สิ้นสุด

เบนท์ลี่ ย์ คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) 4 ที่นั่ง คูเป้ใหม่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นตามรอยแห่งความสำเร็จของรุ่นก่อนที่เต็มไปด้วย จิตวิญญานของความเป็นจีทีทุกประการ หากแต่มีรูปลักษณ์ที่มีมาตรฐานสูงขึ้น ถูกหลักตามแบบวิศวกรรม หรูหรา เต็มไปด้วยงานฝีมือที่ปราณีต ประสิทธิภาพการทำงานแบบไดนามิกที่คล่องตัว จีทีนำเสนอความหรูหราและความสามารถในการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันได้ อย่างยอดเยี่ยมตามจิตวิญญาณของความเป็นเบนท์ลี่ย์ แกรนด์ ทัวร์ริ่ง อย่างแท้จริง ตัวรถที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ให้มีความสวยงามทำให้จีที คูเป้นั้นเต็มไปด้วยความชัดเจนมากขึ้นและมีรูปลักษณ์ที่ลงตัว การตกแต่งภายในนั้นเต็มไปด้วยความร่วมสมัย ซึ่งนำเสนออีกระดับขั้นที่ดีเยี่ยมของการออกแบบห้องโดยสารที่สะดวกสบายและ ความหรูหราที่มาจากงานฝีมือชั้นดี อาทิเช่น เบาะที่นั่งนั้นให้ความสะดวกสบายมากขึ้นและให้ช่องว่างสำหรับที่พักขาทาง ด้านหลังมากขึ้นอีกด้วย รูปแบบแผงควบคุมมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ระบบหน้าจอสัมผัส infotainment ใหม่ยังให้คุณสมบัติของระบบค้นหาเส้นทาง และแผนที่กูลเกิ้ล (Google) และความบันเทิงในเทคโนโลยีล่าสุดของลำโพงแบบ Balanced Mode Radiator และเสียงแบบดิจิตอล Dirac Dimensions? ซึ่งทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

ระบบลำโพง 11 ตัวจาก Naim เครื่องเสียงชั้นนำที่ดีที่สุดในประเทศอังกฤษ โดยเบนท์ลี่ย์ได้สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับรุ่น คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) ทำการประมวลผลสัญญานแบบดิจิตอล Dirac Dimensions? ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อีกทั้งยังเป็นรายแรกที่สร้าง ‘Sound Field’ แบบอิสระให้กับลำโพง เพื่อให้ท่านรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์และเพิ่มความสุนทรีย์ให้ แก่ผู้โดยสารทุกท่านไม่ว่าจะนั่งอยู่ที่เบาะไหนก็ตาม

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที รุ่นนี้มีเครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร 12 สูบ ระบบ powertrain แบบ twin-turbocharged ที่เพิ่มกำลังขับออกมาได้ถึง 575PS (567 แรงม้า/423 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 700 นิวตันเมตร (516 ปอนด์ ฟุต) ซึ่งได้มาจากการส่งผ่านเกียร์ที่รวดเร็วและสามารถลดเกียร์ลงได้สองเกียร์ใน เวลาเดียวกัน เทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ FlexFuel ที่ทำให้รถสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินธรรมดา และเลือกเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ สูงสุดถึง E85 หรือสามารถเติมผสมทั้งสองชนิดได้เช่นกัน

เครื่องยนต์ V8 สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่ปลายปี 2011 เป็นต้นไป และด้วยเครื่องยนต์ตัวนี้ทำให้อัตราการปล่อยมลพิษนั้นลดลงกว่า 40% หากเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์แบบ W12 เลยทีเดียว เครื่องยนต์ทั้งสองแบบจะมีระบบขับเคลื่อนทุกล้อและเพิ่มความสปอร์ตในการขับ ขี่ ด้วยการเพิ่มแรงบิดทางด้านหลังมากกว่า ในอัตราส่วน 40:60 (เมื่อเทียบกับ 50:50 ของรุ่นก่อน) ช่วยป้องกันการหลุดโค้งได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ภายในงาน Exclusive Launch of The New Bentley Continental GT ผู้บริหารบริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส จำกัด ได้ร่วมแถลงข่าวการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของยนตรกรรมยานยนต์ที่ทำมาจาก ศิลปะที่มีฝีมือยอดเยี่ยมและงดงาม พร้อมแนะนำความโดดเด่นของเบนท์ลี่ย์ใหม่คันนี้แก่แขกผู้ทรงเกียรติและเหล่า บรรดาคนดังจากหลากหลายวงการที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งได้ตื่นตาตื่นใจ พร้อมร่วมเฉลิมฉลองความเป็นเลิศในด้านวิศวกรรมยานยนต์มากว่า 90 ปีของเบนท์ลี่ย์ และรวมไปถึง คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) คูเป้ใหม่นี้ จึงทำให้รถคันนี้กลายเป็นตัวแทนของทุกสิ่งในความเป็นเบนท์ลี่ย์ ประสิทธิภาพ ขุมพลังและสมรรถนะของเครื่องยนต์อันน่าทึ่ง การออกแบบที่ดูหรูหราสง่างามพรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน อย่างไร้ที่ติ

“คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) ใหม่ล่าสุดคือยนตรกรรมยานยนต์ที่ทำมาจากศิลปะที่มีฝีมือยอดเยี่ยมและงดงาม ขับเคลื่อนเฉกเช่นซุปเปอร์คาร์แต่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว รูปลักษณ์การออกแบบนั้นเต็มไปด้วยความร่วมสมัย เพราะฉะนั้นนี่คือรถที่จะทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทุกๆ ช่วงเวลาที่คุณอยู่กับรถคันนี้เลยทีเดียว”

สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาความงามและความโดดเด่นอย่างหรูหรามีระดับของเบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที (Continental GT) ได้ที่โชว์รูมเบนท์ลี่ย์ อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ถ.อโศก หรือบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมบริการ (Service Teams) ที่มากประสบการณ์พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์ เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทางเอเอเอสฯ ได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-522-6703, 02-610-9911
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่
แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ โทร. 02 522 6655 ต่อ 448
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด

ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
หรือเยี่ยมชมเว็บไซด์ของเบนท์ลี่ย์ ได้ที่ www.thailand.bentleymotors.com

หมายเหตุ : นักข่าวสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อดาวน์โหลดภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ ได้ที่ www.bentleymedia.com

ที่มา : ThaiPR.net 

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14558.msg15814;topicseen#msg15814

Credit : คลิปพริตตี้

Proton Exora เพิ่มสีแดงใหม่ Plum Red

พระนคร โอโตเซลส์ เปิดตัว Proton Exora รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สีแดงใหม่ล่าสุด (Plum Red) มาพร้อมกับความหรูหรา กว้างขวางสะดวกสบาย เน้นประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง ชูเทคโนโลยีช่วงล่างจากLotus สุดยอดแห่งความมั่นใจ

Proton Exora ได้รับการดีไซน์ อย่างปราณีต ทั้งรูปแบบสมรรถนะ และความปลอดภัย ซึ่งโปรตอนได้คิดค้น และพัฒนาอย่างละเอียดรอบคอบเป็นเวลาหลายปี และเมื่อผสานเทคโนโลยีช่วงล่าง จาก Lotus ประเทศอังกฤษ ทำให้มีสมรรถนะที่โดดเด่น ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับ ห้องโดยสารภายใน มีการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย และปรับปรุงวัสดุการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งระบบเก็บเสียงที่มีคุณภาพสูงนี้ ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสนทนากัน ด้วยระดับเสียงปกติ นอกเหนือจากนี้ ยังเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นด้วย การติดตั้งที่วางเครื่องดื่มถึง 10 จุด เพื่ออำนวยความสะดวก ให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สามารถวางและหยิบขวดเครื่องดื่ม ได้สะดวกสบายมากขึ้น ในส่วนของสัมภาระ Exora ออกแบบให้เก้าอี้ทั้ง 6 ที่นั่งสามารถปรับพับได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น การพับพนักที่นั่งแถวที่สองทำได้สะดวก พร้อมเปิดช่องกว้างให้ผู้โดยสารเข้าไปยังแถวที่นั่งที่สามได้ ประตูหลังสามารถเปิดได้กว้างถึง 85 องศา เอื้อต่อการขึ้นลงของผู้โดยสาร นอกจากนี้ Exora จัดให้มีช่องระบบปรับอากาศให้กับทุกแถวที่นั่ง ช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความเย็นสบายทั่วถึง

อีกหนึ่งไฮไลท์คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบบ BCM หรือ Body Control Module ซึ่งติดตั้งในรถยนต์ยุโรประดับสูง Exora เป็นรถรุ่นแรกในค่ายโปรตอน ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ BCM พร้อมตัวเลือกและอุปกรณ์ใหม่อื่นๆ มากมาย เพื่อเพิ่มการใช้งานและความปลอดภัย BCM ทำหน้าที่ได้มากกว่า 20 ฟังก์ชั่น อาทิ ไฟนำทางเข้าบ้าน การตั้งโปรแกรมการล็อกประตู การควบคุมการทำงานที่ปัดน้ำฝน การทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ระหว่างการหยุดโดยฉุกเฉินจากความเร็วที่ 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นต้น

Proton Exora มีสีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเงิน (Genetic Silver) สีดำ (Tranquility Black) สีขาว (Solid White) สีฟ้า (Gaia Blue) และเปิดตัว สีแดงใหม่ (Plum Red) สำหรับราคาจำหน่ายรถยนต์ Proton Exora รุ่น Exora 1.6 Medium Line M/T ราคา 719,000 บาท , รุ่น Exora 1.6 Medium Line A/T ราคา759,000 บาท และรุ่น Exora 1.6 High Line A/T ราคา 819,000 บาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14554.msg15810;topicseen#msg15810

Credit : คลิปพริตตี้

โตโยต้า มอบรถฝึกปฏิบัติ 12 คัน ให้แก่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

โตโยต้า ส่งมอบ "รถยนต์เพื่อใช้ฝึกปฏิบัติช่างยนต์ จำนวน 12 คัน" แก่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อนำไปใช้ในการฝึกอบรมของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 12 แห่ง และการพัฒนาทักษะและยกระดับศักยภาพฝีมือแรงงาน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ รวมทั้งเทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มุ่งเน้นให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของบริษัท จึงได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการขึ้น เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะ และยกระดับศักยภาพของฝีมือแรงงานในท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ รวมถึงเป็นการส่งเสริมด้านอาชีพช่างยนต์ ช่างตัวถังและสี เพื่อตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพ และทักษะที่ดีเยี่ยม โดยได้ให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ อบรมบุคลากรครู มอบอุปกรณ์ และสื่อการเรียนการสอน โดยมีผู้ผ่านการฝึกอบรมจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคแล้ว ทั้งสิ้น 223 คน

ดัง นั้น เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการฝึกอบรมของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค ทั้ง 12 แห่ง โตโยต้าจึงได้สนับสนุน "รถยนต์เพื่อใช้ฝึกปฏิบัติช่างยนต์ จำนวน 12 คัน" คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 10 ล้านบาท โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค สามารถนำรถยนต์เพื่อใช้ฝึกปฏิบัติดังกล่าวไปต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่ แรงงานในท้องถิ่น ผ่านการศึกษาเรียนรู้จากสภาพรถยนต์จริง ถึงโครงสร้างความปลอดภัยของตัวถังรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ ภายในรถ และเพื่อใช้ฝึกปฏิบัติการตรวจเช็คระยะทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มทักษะ และสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือเข้าทำงานในศูนย์บริการรถยนต์โดยเฉพาะโตโยต้าได้ทันที ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยส่งเสริมฝีมือแรงงานไทยไปสู่ระดับ สากล และให้โอกาสแห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในสังคม

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า "โตโยต้าให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างมาก ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการพัฒนาบุคลากร ซึ่งมิใช่เพียงพนักงานภายในองค์กรเท่านั้น ยังรวมถึงช่วยสนับสนุนการพัฒนาฝีมือแรงงานไทยในท้องถิ่น ผ่านกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในการเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคม ด้านการส่งเสริมการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า เพื่อส่งเสริมให้สังคมไทย เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน "

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14553.msg15806;topicseen#msg15806

Credit : คลิปพริตตี้

บีเอ็มฯ จัดการแข่งขันทางด้านทักษะ ฝ่ายบริการหลังการขายประจำปี 2554

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้จัดการแข่งขันทางด้านทักษะของฝ่ายบริการหลังการขายประจำปี 2554 เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการ ที่เน้นความเป็นเลิศในด้านการบริการลูกค้า และเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการเพื่อความพึงพอใจสูงสุด

มร. แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "เรามุ่งเน้นที่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในส่วนของแบรนด์และส่วนการขยายฐานลูกค้า ผ่านการให้บริการที่ดีเลิศ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าของเรา ทั้งนี้ การบริการหลังการขาย เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้การบริการ ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทุกท่าน"

เพื่อ เป็นการส่งเสริมในด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จัดการแข่งขันทางด้านทักษะในระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2554 โดยแบ่งออกเป็น 3 หมวดการแข่งขันดังต่อไปนี้
1. การแข่งขันสำหรับช่างเทคนิค
2. การแข่งขันสำหรับเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษางานบริการ
3. การแข่งขันสำหรับเจ้าหน้าที่อะไหล่

สำหรับ ขั้นตอนการแข่งขันนั้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้แบ่งการแข่งขันออกเป็นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันอย่างพร้อมเพรียง โดยโปรแกรมการแข่งขันประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้

1. การแข่งขันรอบแรก - เป็นการสอบข้อเขียนเกี่ยวกับพื้นฐานเทคโนโลยีและความรู้พื้นฐานด้านการ จัดการ สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ

2. การแข่งขันรอบที่สอง - เป็นการสอบข้อเขียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง และระบบวิเคราะห์ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ (สำหรับช่างเทคนิค)

3. การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ - เป็นการแข่งขันภาคปฏิบัติเพื่อวิเคราะห์และแก้ปัญหาในสถานการณ์จำลอง
ผลการแข่งขันทางด้านทักษะของฝ่ายบริการหลังการขายประจำปี 2554
รางวัลที่ 1 สำหรับผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ - บริษัท เยอรมัน ออโต้ จำกัด

รางวัลที่ 2 สำหรับผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ - บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด - พระราม 4

รางวัลที่ 1 สำหรับผู้จำหน่ายในต่างจังหวัด - บริษัท เชิดชัย ออโต้เฮ้าส์ จำกัด (นครราชสีมา)
ผลการแข่งขันสำหรับเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษางานบริการ

รางวัลที่ 1 สำหรับผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ - บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด - พระราม 4

รางวัลที่ 2 สำหรับผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ - บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ ลาดพร้าว จำกัด

รางวัลที่ 1 สำหรับผู้จำหน่ายในต่างจังหวัด - บริษัท เชิดชัย ออโต้เฮ้าส์ จำกัด (นครราชสีมา)
ผลการแข่งขันสำหรับเจ้าหน้าที่อะไหล่
รางวัลที่ 1 สำหรับผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ - บริษัท เยอรมัน ออโต้ จำกัด
รางวัลที่ 2 สำหรับผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ - บริษัท ยุโรปา มอเตอร์ จำกัด

รางวัลที่ 1 สำหรับผู้จำหน่ายในต่างจังหวัด - บริษัท เนลสัน ออโต้เฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ชลบุรี)

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิงค์  http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14550.msg15801;topicseen#msg15801

Credit : คลิปพริตตี้

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ฮอนด้าฯตั้งผู้บริหารไทยรั้งตำแหน่งรองประธานอาวุโส

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศ ไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้งนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโส (Executive Vice President) มีผลแล้วซึ่งเป็นครั้งแรก ที่ผู้บริหารคนไทยได้รับความไว้วางใจ ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร อายุ 48 ปี มีประสบการณ์การทำงานกับฮอนด้ามากว่า 10 ปี เคยดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาค เอเชีย และโอเชียเนีย

และได้รับ มอบหมายให้ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งจะดูแลส่วนงานขาย ส่วนงานการตลาด และ ส่วนงานบริการทั้งหมดของ ธุรกิจรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย

ฮอนด้าเชื่อ มั่นว่าการเปลี่ยน แปลงผู้บริหารในองค์กรครั้งนี้ จะช่วย เร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการ ดำเนินธุรกิจของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิต และส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนในภูมิภาคเอเชีย และ โอเชียเนีย อีกทั้งเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของบริษัทซึ่งต้องการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์ที่มอบความพึงพอใจสูงสุด แก่ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยาว์ และมี CO2 ต่ำ

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14440.msg15663;topicseen#msg15663

Credit : คลิปพริตตี้

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

สมาร์ท ฟอร์วิชั่น

ในงาน แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ หรือ IAA 2011 ซึ่งเริ่มรอบสื่อมวลชนวันแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมาร์ท ฟอร์วิชั่น มีส่วนคล้ายอย่างมากในการที่จะกลายเป็นรุ่นใหม่ หรือโมเดลเชนจ์ของ ซิตี้คาร์รุ่นฟอร์ทู เพราะตัวรถมีส่วนละม้ายคล้ายกับฟอร์ทูอย่างมาก โดยเฉพาะรูปทรงโดยรวมในแบบซิตี้คาร์ 2 ที่นั่ง และเชื่อว่าเครื่องยนต์ก็น่าจะยังวางด้านท้ายเหมือนเดิม โดยโปรเจกต์นี้สมาร์ททำงานร่วมกับ BASF ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่สุด แห่งหนึ่งในเยอรมนี และมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความสามารถทางด้านเทคโนโลยีที่พวกเขามีอยู่ ในการตอบสนองการใช้งานในยุคหน้า

จุด เด่นของตัวรถคือ การพัฒนารถยนต์ที่ใช้วัสดุรูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองในด้านการใช้งาน และมีจุดเด่นในเรื่องของการลดความสิ้นเปลืองน้ำมันและพลังงานในระหว่างเดิน ทาง รถยนต์ในยุคหน้าจำเป็นจะต้องได้รับการสร้างขึ้นมาโดยใช้วัสดุที่มีความทัน สมัยและลดความสิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิง แต่ยังคงต้องเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและสมรรถนะในการขับขี่

ไฮไลท์ ของตัวรถเห็นจะเป็นหลังคาที่มาพร้อมกับลวดลายทรงหกเหลี่ยมซึ่งมี การติดตั้งกระจกใสเอาไว้ เพื่อทำหน้าที่เป็นเสมือนกับตัวกรองแสงเข้าสู่ห้องโดยสาร และขณะเดียวกันก็เป็นหลังคาแบบ LightTransmitting Roof สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แบบโปร่งใสเอาไว้ด้วย โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งไปใช้กับระบบอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร

อีก เทคโนโลยีที่ติดตั้งอยู่ในรถ คือ หลอดแบบ OLED หรือ Organic Light-Emitting Diodes จะทำหน้าที่เป็นไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร ซึ่งมีความทนทาน และที่สำคัญคือ ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าหลอดปกติหลายเท่า

ในส่วนของ วัสดุที่เน้นน้ำหนักตามที่ BASF บอก คือ การพัฒนาพลาสติกชนิดพิเศษที่สามารถผลิตได้ในเชิงพาณิชย์ โดยสมาร์ทนำมาใช้ในการผลิตตามส่วนต่างๆ ของตัวรถ ยกเว้นบานประตูที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนโครงสร้างหลักก็เป็นตัวถังนิรภัยของสมาร์ทที่ชื่อว่า Tridion ขณะที่ล้อแม็กซ์เป็นวัสดุใหม่เช่นกัน ซึ่งทาง BASF เคลมว่ามีน้ำหนักเบากว่าล้อที่ใช้วัสดุปกติถึง 3 กิโลกรัมต่อวงเลยทีเดียว

นอก จากนั้น ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร มีการใช้วัสดุที่มีความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยีเช่นกัน อย่างโฟมที่ใช้ในเบาะนั่งก็มีน้ำหนักเบากว่า 10-20% เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุปกติที่ใช้ในการทำเบาะ ขณะที่การควบคุมอุณหภูมิได้ในห้องโดยสารถือเป็นอีกไฮไลท์ของตัวรถ

เรื่อง นี้มีการให้ความสำคัญก็เพราะยิ่งลดปัญหาในเรื่องความร้อนภายในห้อง โดยสารลงได้เท่าไร ก็เท่ากับว่าเป็นการช่วยลดภาระให้กับระบบเครื่องปรับอากาศ และทำให้ลดความสิ้นเปลืองของการใช้ไฟฟ้า โดยทาง BASF บอกว่าวัสดุที่ใช้ในการกันความร้อนเป็นวัสดุใหม่ล่าสุดที่ยังไม่เคยนำมาใช้ ในอุตสาหกรรมรถยนต์มาก่อน แต่ก็ยังไม่เปิดเผย ส่วนกระจกรอบคันก็เป็นแบบที่ติดฟิล์มซึ่งสามารถสะท้อนคลื่นรังสีอินฟราเรด ได้

ภาพรวมในเรื่องของการลดน้ำหนักด้วยวัสดุแบบใหม่ในต้นแบบรุ่นนี้ คือ น้ำหนักลดลงถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ขนาดเดียวกันที่ผลิตจากเหล็ก และ 30% เมื่อเปรียบเทียบกับอะลูมิเนียม

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14359.msg15564;topicseen#msg15564

Credit : คลิปพริตตี้