Subscribe:

DekvanzClub

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ฮุนได พาสื่อฯ บินลัดฟ้า สู่แดนโสม ชมเทคโนโลยีล้ำสมัย ( ตอน1 )

ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ขนสื่อมวลชนสายรถยนต์ บุกแดนกิมจิ ภายใต้ชื่อ Journey to the World of Hyundai พาชมศูนย์ R&D Center และ Hyundai Steel ชูรายเดียวในโลก ที่มีโรงงานถลุงเหล็กเป็นของตนเอง พร้อมประกาศขึ้นเบอร์สาม อุตสาหกรรมยานยนต์

และทันทีที่คณะสื่อมวลชน เดินทางถึงสำนักงานใหญ่ ของ บริษัทฮุนได มอเตอร์ คอมปานี ค่ายรถที่มียอดผลิตรถอันดับ 4 ของโลก และเบอร์หนึ่ง ในประเทศเกาหลี พวกเราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของฮุนได ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำพูด แต่เป็นจริง และสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น “นวัตกรรม” และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮุนได ที่ทั่วโลกรับรู้กันในนาม Detroit of Asia รวมทั้งแนวทาง และอนาคตของรถยนต์แบรนด์ฮุนได ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี และการเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบ จนถึงการผลิตรถยนต์ ซึ่งไม่ได้เน้นการแข่งขันทางราคาเพียงอย่างเดียว

นาย สฤกษ์ภรณ์ สกลรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า เรามิใช่จะสื่อให้เห็นถึงฮุนได เป็นแบรนด์รถยนต์ยอดนิยมสูงสุด ในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ตลอดจนถึงกระบวนการผลิตรถยนต์ที่มีดี ไม่แพ้แบรนด์รถยนต์สัญชาติอื่นๆ

“ฮุน ได มอเตอร์ คัมปานี มีความตั้งใจและจริงจังในผลิต และนำเสนอรถยนต์คุณภาพสู่ประชาคม ทั่วโลก โดยในส่วน R&D Center ทั้งบุคลากรและเทคโนโลยีต่างๆ มีความล้ำสมัยไม่แพ้รถยนต์แบรนด์ดังๆ จากญี่ปุ่นหรือยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบในส่วนต่างๆ ของและการเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงสมรรถนะรถยนต์ฮุนได ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการทำตลาดของ ฮุนได มอเตอร์ส ไทยแลนด์ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่ผู้เดียวในไทย ที่จะดูแลลูกค้า ทั้งการบริการก่อนขายและหลังการขาย พร้อมทั้งตั้งใจนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ มาตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ได้อย่างอย่างตรงจุดมากขึ้น” นายสฤกษ์ภรณ์ กล่าวและว่า

“ข้อได้ เปรียบของฮุนได มอเตอร์ คัมปานีที่มีเหนือคู่แข่งคือ เป็นบริษัทรถยนต์รายเดียวของโลก ที่มีเหล็กกล้าคุณภาพดี มาป้อนกระบวนการผลิต นอกจากจะส่งผลให้มีวัสดุชั้นดี มารองรับการใช้งานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแล้ว ยังช่วยให้บริษัทแข่งขันในตลาดได้เป็นอย่างดี ”

สำหรับศูนย์พัฒนา วิจัย หรือ R&D Center ตั้งอยู่ที่เมืองนัมยาง มีพื้นที่ขนาด 3.47 ล้านตารางเมตร ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญต่างๆในการพัฒนารถยนต์ที่ทันสมัย ตั้งแต่อุโมงค์ลม ขนาด 6 x 8 เมตร มูลค่ากว่า 45 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ รองรับการทดสอบในหลายรูปแบบ ทั้งด้านสมรรถนะ และความสบายในการเดินทาง ลานทดสอบสภาพถนนในทุกประเภท ตั้งแต่ถนนวงแหวนทดสอบความเร็วสูงสุด ไปจนถึงถนนขรุขระ เพื่อวัดเสียง และความทนทานของช่วงล่าง ห้องทดสอบการชน หรือ crash test center ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของความปลอดภัยภายในห้องโดยสาร

ทั้ง นี้ผู้เชี่ยวชาญ และวิศวกรของฮุนได มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์หลักๆ 3 ส่วน ดังต่อไปนี้ คือ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ในรูปแบบต่างๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Eco-Technology อาทิ เช่น 1. รถยนต์ที่ให้มลพิษเป็นศูนย์เพื่อโลกสีเขียว 2. รถยนต์ไฮบริด ใช้ก๊าซ LPG ผสมมอเตอร์ไฟฟ้า 3. รถยนต์ไฟฟ้า และ 4. รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Fuel Cell ซึ่งฮุนไดได้นำเสนอรถยนต์ ภายใต้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Hyundai i10 EV และ Hyundai Avante Hybrid LPi นอกเหนือจากนี้ยังมีรถยนต์ฮุนไดรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นผลงานจากศูนย์ R&D แห่งนี้ รวมไปถึงเครื่องยนต์เบนซิน ฉีดเชื้อเพลิงตรงแบบ GDI (Gasoline Direct Injection) และเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล แบบแปรผัน VGT สำหรับรถยนต์แบบ passenger cars ในหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากความประหยัด และความเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมแล้ว เครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆจากฮุนได ยังให้ประสิทธิภาพ และสมรรถนะในระดับสูงสุดของรถยนต์ในคลาสเดียวกัน จนนับว่าเป็น “จุดขาย” ใหม่ของรถยนต์ฮุนไดทั่วโลก

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

จากลิ้ง http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=9805.msg11308;topicseen#msg11308

Credit : DekvanzClub

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น