ฮอนด้า เวฟ นำตลาดต่อเนื่อง

ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 178,050 คัน มากกว่า ปีที่แล้วในเดือนเดียวกัน 21,524 คัน ปรับตัวสูงขึ้น 114% รถครอบครัว มาแรงสุด ครองส่วนแบ่งที่ 52% ในขณะที่รถเอ.ที. มียอดจาหน่าย ลดลงเหลือ 44% โดยฮอนด้า เวฟ รถครอบครัวยอดนิยมระบบหัวฉีด PGM-FI แรงสุดเดือนเดียวกวาด 76,452 คัน สูงสุดในกลุ่มรถครอบครัวด้วย      กัน ในขณะที่ฮอนด้าดรีม 110ไอ ระบบหัวฉีด ที่มีการเปิดตัวและวางตลาดในกลางเดือนเดียวกันก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ใช้

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนเริ่มต้นของช่วงฤดูมรสุม มีฝนตกหนักติดต่อกันจนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นเหตุให้คนไทยชะลอการซื้อรถจักรยานยนต์ในช่วงนี้ โดยตลอดเดือนพบว่ามียอดจดทะเบียนป้ายวงกลมทั้งสิ้น 178,050 คัน ปรับตัวลดลงจากเดือนที่แล้วประมาณ 20% แต่มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่มียอดจำหน่าย 156,526 คัน เติบโตขึ้นมา 114% โดยเป็นยอดจำหน่ายรถประเภท ครอบครัวมากถึง 93,377 คัน ครองตลาดรวมที่ 52% ซึ่งในจำนวนนี้มาจากฮอนด้า เวฟ 76,452 คัน เทียบเท่าอัตราส่วน 82% จากรถครอบครัวทั้งหมดที่มีการจำหน่าย

นอกจาก นี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้เดินหน้าร่วมกับร้านผู้จำหน่ายทั่วประเทศจัดกิจกรรม "แมนฯ ยูฯ แอนด์ ลิเวอร์พูล คลับ ปาร์ตี้" เปิดโอกาสให้สาวกแมนฯ ยูฯ และ ลิเวอร์พูล พาเพื่อนๆ มาร่วมสนุกกันแบบยกแก๊ง ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ของทั้งสองทีมในประเทศไทยอย่างเป็นทาง การ เป็น 1 ใน 4 ปรากฏการณ์ความสนุกจากแคมเปญ "ฮอนด้า มันส์ ทะลุแมตช์"

สำหรับ ตลาดรวมของรถจักรยานยนต์ทุกประเภทประจำเดือนกรกฎาคม มีการจดทะเบียนป้ายวงกลมทั้งสิ้น 178,050 คัน แบ่งเป็นรถแบบครอบครัว 93,377 คัน อัตราส่วนครองตลาดที่ 52% รถแบบ เอ.ที. 78,117 คัน อัตราส่วน 44% รถแบบออฟโรด 2,588 คัน อัตราส่วน 2% รถแบบสปอร์ต 2,408 คัน อัตราส่วน 1% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตและรถแบบอื่นๆ รวมกัน 1,560 คัน อัตราส่วน 1%

ทั้ง นี้เมื่อแยกตามประเภทผู้ผลิต มีดังนี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า มียอดจดทะเบียน 119,996 คัน ครองตลาด 68% ตามด้วย ยามาฮ่า 44,216 คัน ครองตลาด 23%, ซูซูกิ 7,908 คัน ครองตลาด 4% และคาวาซากิ 2,916 คัน หรือ 2%, ไทเกอร์ 165 คัน, แพลตินัม 23 คัน, เจอาร์ดี 13 คัน และอื่นๆ อีก 2,813 คัน

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=12392.msg13443;topicseen#msg13443

Credit : คลิปพริตตี้