ในงาน แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ หรือ IAA 2011 ซึ่งเริ่มรอบสื่อมวลชนวันแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมาร์ท ฟอร์วิชั่น มีส่วนคล้ายอย่างมากในการที่จะกลายเป็นรุ่นใหม่ หรือโมเดลเชนจ์ของ ซิตี้คาร์รุ่นฟอร์ทู เพราะตัวรถมีส่วนละม้ายคล้ายกับฟอร์ทูอย่างมาก โดยเฉพาะรูปทรงโดยรวมในแบบซิตี้คาร์ 2 ที่นั่ง และเชื่อว่าเครื่องยนต์ก็น่าจะยังวางด้านท้ายเหมือนเดิม โดยโปรเจกต์นี้สมาร์ททำงานร่วมกับ BASF ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่สุด แห่งหนึ่งในเยอรมนี และมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความสามารถทางด้านเทคโนโลยีที่พวกเขามีอยู่ ในการตอบสนองการใช้งานในยุคหน้า
จุด เด่นของตัวรถคือ การพัฒนารถยนต์ที่ใช้วัสดุรูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองในด้านการใช้งาน และมีจุดเด่นในเรื่องของการลดความสิ้นเปลืองน้ำมันและพลังงานในระหว่างเดิน ทาง รถยนต์ในยุคหน้าจำเป็นจะต้องได้รับการสร้างขึ้นมาโดยใช้วัสดุที่มีความทัน สมัยและลดความสิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิง แต่ยังคงต้องเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและสมรรถนะในการขับขี่
ไฮไลท์ ของตัวรถเห็นจะเป็นหลังคาที่มาพร้อมกับลวดลายทรงหกเหลี่ยมซึ่งมี การติดตั้งกระจกใสเอาไว้ เพื่อทำหน้าที่เป็นเสมือนกับตัวกรองแสงเข้าสู่ห้องโดยสาร และขณะเดียวกันก็เป็นหลังคาแบบ LightTransmitting Roof สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แบบโปร่งใสเอาไว้ด้วย โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งไปใช้กับระบบอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร
อีก เทคโนโลยีที่ติดตั้งอยู่ในรถ คือ หลอดแบบ OLED หรือ Organic Light-Emitting Diodes จะทำหน้าที่เป็นไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร ซึ่งมีความทนทาน และที่สำคัญคือ ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าหลอดปกติหลายเท่า
ในส่วนของ วัสดุที่เน้นน้ำหนักตามที่ BASF บอก คือ การพัฒนาพลาสติกชนิดพิเศษที่สามารถผลิตได้ในเชิงพาณิชย์ โดยสมาร์ทนำมาใช้ในการผลิตตามส่วนต่างๆ ของตัวรถ ยกเว้นบานประตูที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนโครงสร้างหลักก็เป็นตัวถังนิรภัยของสมาร์ทที่ชื่อว่า Tridion ขณะที่ล้อแม็กซ์เป็นวัสดุใหม่เช่นกัน ซึ่งทาง BASF เคลมว่ามีน้ำหนักเบากว่าล้อที่ใช้วัสดุปกติถึง 3 กิโลกรัมต่อวงเลยทีเดียว
นอก จากนั้น ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร มีการใช้วัสดุที่มีความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยีเช่นกัน อย่างโฟมที่ใช้ในเบาะนั่งก็มีน้ำหนักเบากว่า 10-20% เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุปกติที่ใช้ในการทำเบาะ ขณะที่การควบคุมอุณหภูมิได้ในห้องโดยสารถือเป็นอีกไฮไลท์ของตัวรถ
เรื่อง นี้มีการให้ความสำคัญก็เพราะยิ่งลดปัญหาในเรื่องความร้อนภายในห้อง โดยสารลงได้เท่าไร ก็เท่ากับว่าเป็นการช่วยลดภาระให้กับระบบเครื่องปรับอากาศ และทำให้ลดความสิ้นเปลืองของการใช้ไฟฟ้า โดยทาง BASF บอกว่าวัสดุที่ใช้ในการกันความร้อนเป็นวัสดุใหม่ล่าสุดที่ยังไม่เคยนำมาใช้ ในอุตสาหกรรมรถยนต์มาก่อน แต่ก็ยังไม่เปิดเผย ส่วนกระจกรอบคันก็เป็นแบบที่ติดฟิล์มซึ่งสามารถสะท้อนคลื่นรังสีอินฟราเรด ได้
ภาพรวมในเรื่องของการลดน้ำหนักด้วยวัสดุแบบใหม่ในต้นแบบรุ่นนี้ คือ น้ำหนักลดลงถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ขนาดเดียวกันที่ผลิตจากเหล็ก และ 30% เมื่อเปรียบเทียบกับอะลูมิเนียม
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=14359.msg15564;topicseen#msg15564
Credit : คลิปพริตตี้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น