วิธีแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด

วิธีแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ด้วยการตรวจเช็คที่ง่ายละตรงที่สุด ที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้ เป็นวิธีการที่พ่อของผมสอนมา และเป็นวิธีที่ผมยังใช้ทำเป็นอาชีพมาจนถึงทุกวันนี้ มาคิดดูแล้วจากที่พ่อสอนตอนนั้นเป็นช่วงสมัยที่รถ SUZUKI RC80 RC100 กำลังเป็นที่นิยม และเป็นช่วงเริ่มต้นตำนานของ HONDA NOVA ราวๆปี พ.ศ.2535 วันเวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ก็ประมาณ 18 ปีแล้ว

โอ้ผมยังใช้วิชาเดิมๆที่พ่อถ่ายทอดให้ จะแตกต่างกันบ้างก็เพียงแต่หน้าตาชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนหลักการยังเหมือนเดิม พ่อผมสอนอย่างนี้ครับว่า “ถ้ารถสตาร์ทไม่ติดให้ดูไฟ ถ้าไฟมาปกติให้ดูน้ำมัน ถ้าสองอย่างนี้มารถก็จะสตาร์ทติด” วันเวลาล่วงมา และงานซ่อมที่ผ่านไป เป็นเครื่องยื่นยันว่าการตรวจเช็คด้วยวิธีง่ายๆแบบนี้ เป็นวิชาที่ใช้ได้จริงๆ หลายท่านที่เคยอ่านบทความของผมคงเคยอ่านเจอที่ผมเขียนว่าพ่อสอนมา พ่อผมพาทำ คำเหล่านี้เป็นการสอดแทรกให้ท่านผู้อ่าน และตัวผมเองไม่หลงลืมว่าความรู้และประสบการณ์ที่เล่าขานเหล่านั้นได้มาจาก ที่ใด และมีไว้เพื่อให้เกียรติ เทอดทูนผู้ที่ให้ความรู้เรามา ผมก็ได้เกริ่นมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว คราวนี้จะได้เริ่มสาระใจความแล้วนะครับ

“ถ้ารถสตาร์ทไม่ติดให้ดูไฟ ถ้าไฟมาปกติให้ดูน้ำมัน ถ้าสองอย่างนี้มารถก็จะสตาร์ทติด” ขั้นตอนมีดังนี้ครับ
1. เช็คไฟที่หัวเทียนก่อนเลยครับ ถอดหัวเทียนออก แล้วเสียบคาปลั๊กหัวเทียนไว้ เปิดสวิทช์กุญแจON จับที่ปลั๊กหัวเทียน หรือว่างให้เกลียวหัวเทียนแตะกับเครื่องยนต์ส่วนที่เป็นโลหะให้ไฟฟ้าผ่านได้ ใช้มือหรือเท้ายันขาสตาร์ท แล้วก็สังเกตุดูประกายไฟที่เขี้ยวหัวเทียนเลยครับ ถ้าไม่มีประกายไฟ เราต้องทำให้มีประกายไฟครับ

-ทำให้หัวเทียนมีประกายไฟ อย่างง่ายเช็คไฟจากคอยล์หัวเทียนก่อนครับ โดยถอดปลั๊กหัวเทียนเหลือแต่สายคอยล์แล้ว จ่อปลายสายแล้วยันขาสตาร์ทดูปะกายไฟ ถ้าปะกายไฟมาแต่ไม่ออกที่หัวเทียนแสดงว่าหัวเทียนบอด ให้เปลี่ยนหัวเทียนเลยครับ
-ถ้าไฟไม่มาที่สายคอยล์หัวเทียน ต้องไล่เช็คไฟที่มาจากคอยล์สตาร์ท ให้เอาสายไฟจากคอยล์สตาร์ท มาเขี่ยที่ล้อแม่เหล็ก แล้วยันขาสตาร์ท ดูปะกายไฟที่ปลายสาย ถ้ามีปะกายไฟแสดงว่า CDI อาจจะเสีย หรือ พลันเซอร์คอยล์ หรือ สวิทช์กุญแจ เสียก็เป็นได้

-และถ้าไฟมาได้ทั้งหมดแล้ว ยังสตาร์ทไม่ติดต้องดูน้ำมันแล้วครับ
2.เช็ค น้ำมันโดยดูทีีเขี้ยวหัวเทียนถ้าแห้งแสดงว่าน้ำมันไม่มา ให้ตรวจดูที่คาร์บูเรเตอร์อาจจะล้างคาบูเรเตอร์เลยก็ได้ครับเพราะเราจะได้ ถอดเช็คอุปกรณ์ภายในคาบูเรเตอร์โดยละเอียด

-การล้างคาบูเรเตอร์ ตรวจดูที่เข็มเร่งหักไหมหรือสึกจนผอมแบบนี้แรงดูดสูญญากาศคงแรงไม่พอที่จะ ดึงน้ำมันขึ้นมาจากห้งลูกลอยก็เป็นได้ควรเปลี่ยนใหม่ และเสื้อเข็มเร่งก็ต้องไม่สึกจนกว้างเกินจากมาตรฐานซึ่งบางรุ่นอย่าง Sonic จะสังเกตุเห็นเป็นวงรีไปเลยซึ่งจริงแล้วรูเสื้อเข็มเร่งจะเป็นวงกลม ควรเปลี่ยนใหม่
-ตรวจดูนมหนูน้ำมัน นมหนูอากาศ ตันหรือไม่ต้องล้างด้วยเบ็นซิลแล้วเป่าด้วยปืนลม ฝุ่นละออองจะได้หลุดออกมา หรือเปลี่ยนใหม่เลย เข็มลูกลอยก็ต้องดู รูน้ำมันทุกรูหยอดด้วยเบนซิลแล้วเป่าด้วยปืนลมให้ผงละอองออกให้หมด
-หรือ น้ำมันไม่ลงมาที่คาเรเตอร์เลยต้งตรวจเช็คที่ก็อกน้ำมันอุดตันหรือไม่ หรือาสายดูดไดอะแฟลมรั่วขาดทำให้วาล์วน้ำมันไม่เปิด ต้องเปลี่ยนสายใหม่ หรือก็อกน้ำมันเสียก็ต้องเปลี่ยนก็อกน้ำมัน
-และสุดท้ายต้องดูดสายสูญญากาศน้ำมันจึงจะมาแสดงว่า แรงดูดจากปลอกสูบไม่พอ แปลว่าลูกสูบหลวมต้องคว้านเสื้อใหม่ครับ
เป็นยังไงบ้างครับ แค่ผมทำตามที่พ่อสอนแค่เรื่องเดียวก็ทำมาหากินไม่อย่างไม่สิ้นสุด ดีจริงๆ และเป็นเรื่องจริงที่ผมทำมาแล้วด้วย
หาก ทุกท่านได้ประโยชน์จากบทความนี้ ผมขอให้ทุกท่านได้คิดย้อนกลับไปถึง พ่อแม่ของท่าน ด้วยว่าท่านมีบุญคุณกับเราใหญ่หลวงแค่ไหน ถ้าได้พบได้ไปเยี่ยมก็ตอบแทนบุญเสียเถิดครับ ซื้อข้าวปลาอาหาร หรืออาหารเสริมสุขภาพให้ท่านด้วย
ซึ่งผมหรือท่านทั้งหลายจะหมั่นเพียรใน การกตัญญูสักเท่าได้ก็ไม่สามารถตอบแทน บุญคุณได้หมดหรอกครับ เพียงแต่ว่าเราได้ทำเต็มที่แล้วในฐานะลูกของพ่อแม่ ท่านจะอิ่มใจในการกตัญญู และพ่อแม่ของท่านก็จะอิ่มใจในความกตัญญูของท่าน
ผมก็ได้พยายามสื่อสารได้เพียงเท่านี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน ทั้งทางโลกและทางธรรมแล้ว วันนี้ลากันเท่านี้ สวัสดีครับ

ที่มา : ubonmotorcyc.com

Credit : คลิปพริตตี้